แม้ว่าการขายทองจะทำกำไรได้แต่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าขายทอง 1 ครั้งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วยนะคะ ว่าแต่ขายทอง เสียค่าอะไรบ้าง แล้วจะได้กำไรจากอะไรบ้าง ถ้าอยากรู้แล้วมาอ่านไปด้วยกันเลยค่ะ
ขายทอง เสียค่าอะไรบ้าง
1. ค่าน้ำประสานทอง
น้ำประสานทองเป็นสารบอแร็กซ์ที่มีผงสีขาวคล้ายสารส้ม มีจุดหลอมเหลวอยู่ที่ประมาณ 800 องศาเซลเซียส ที่ทำหน้าที่ช่วยยึดทองให้ติดกันก่อนที่เนื้อทองจะหลอมละลาย นอกจากนี้ยังช่วยให้ทองติดลวดลายได้ง่ายขึ้นด้วย เหมาะสำหรับทองรูปพรรณลวดลายทั่วไปหรือแม้แต่ทองรูปพรรณลวดลายเยอะ ๆ อีกด้วย ยิ่งมีลวดลายเยอะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใช้น้ำประสานทองมากขึ้น ซึ่งเวลาขายทองรูปพรรณคืนจะต้องหักค่าน้ำประสานทองไม่เกิน 5% ตามที่สมาคมค้าทองคำกำหนดไว้
2. ค่ากำเหน็จ
เป็นชื่อเรียกของค่าแรงของช่างทำทองในการผลิตทองรูปพรรณ โดยค่ากำเหน็จจะคิดจากความยากง่ายของทองรูปพรรณ หากทองรูปพรรณมีลวดลายเยอะก็ยิ่งเสียค่ากำเหน็จสูง แต่ทั้งนี้ค่ากำเหน็จจะขึ้นอยู่ที่ทางร้านกำหนด โดยราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 600-1,200 บาท ต่อน้ำหนักทอง 1 บาท
3. ค่าบล็อก
เป็นค่าใช้จ่ายในการผลิตทองคำแท่ง ค่าบริหารจัดการทอง ค่าจัดเก็บรักษา และค่าขนส่ง สำหรับค่าบล็อกจะอยู่ที่ประมาณ 100-400 บาท ต่อทองคำหนัก 1 บาท ขึ้นอยู่กับการคิดราคาของแต่ละร้าน โดยค่าบล็อกจะคิดก็ต่อเมื่อคุณซื้อขายทองคำแท่งที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 5 บาทเท่านั้น แต่หากคุณซื้อขายทองคำแท่งมากกว่า 5 บาทจะไม่เสียค่าบล็อกค่ะ แต่หากคุณซื้อทองคำแท่งปั๊มโลโก้ (Minted Gold Bar) จะต้องเสียค่าบล็อกต่อให้คุณซื้อน้ำหนักเกินกว่า 5 บาทก็ตาม
ขายทองอย่างไรให้ไม่ขาดทุน
อย่างแรกเลยจะต้องขายทองคำแท่งเท่านั้นค่ะ เพราะทองรูปพรรณเป็นทองที่ใช้สวมใส่เป็นเครื่องประดับจึงเสี่ยงต่อจะเกิดรอยขีดข่วนและทำให้เนื้อทองมีปริมาณที่น้อยลง อีกทั้งเสี่ยงต่อการเจอมลพิษจากภายนอกจนทำให้ทองหมอง ดูไม่แวววาว และทำให้ราคาตกลง นอกจากนี้ตัวทองจะต้องมีตราประทับหรือโลโก้ของร้านที่ซื้อมาด้วยเสมอ และที่สำคัญเราขอแนะนำให้คุณขายทองคืนร้านเดิมค่ะ โดยทั่วไปแล้วร้านทองชั้นนำจะมีใบรับประกันทองที่ช่วยยืนยันว่าเป็นทองคุณภาพดีจากร้านนั้นจริง ๆ จึงไม่ต้องพิสูจน์ความเป็นทองแท้อีกต่อไป เนื้อทองจึงไม่ได้รับความเสียหายเลยค่ะ หากคุณไม่สะดวกใจขายร้านเดิมจริง ๆ ก็สามารถขายให้ร้านอื่นได้ เพียงแต่อาจได้กำไรไม่เท่าร้านเดิม เนื่องจากร้านทองร้านใหม่อาจพิสูจน์ทองด้วยการเผาไฟหรือการขูดเอาเนื้อทองออกมาตรวจ ส่งผลให้เนื้อทองน้อยลง แต่หากคุณเจอร้านที่ตรวจทองด้วยเครื่องตรวจทอง
เลือกร้านขายทองอย่างไรให้ได้กำไร
1. เลือกร้านทองที่ได้มาตรฐาน
ร้านทองที่ดีจะต้องมีมาตรฐานสูง มีชื่อเสียงไปในทิศทางที่ดี ซื้อขายทองมาอย่างยาวนาน ในกรณีที่คุณเป็นมือใหม่ ไม่มีความรู้เรื่องทองมาก่อน เราขอแนะนำให้เลือกร้านทองที่เสิร์จหาในเว็บไซต์ Google แล้วเจอประมาณ 5-10 อันดับแรก หากหาข้อมูลแล้วเจอร้านที่มีแต่คนแนะนำ ซื้อขายในราคามาตรฐาน บริการประทับใจ ก็จะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อขายได้ง่ายขึ้น
2. เลือกร้านที่มีช่องทางการติดต่อหลากหลาย
สำหรับร้านทองที่ดี ได้มาตรฐาน จะต้องมีหน้าร้านสะดวกต่อการเดินทาง อยู่ติดกับแลนด์มาร์กสำคัญ และที่สำคัญจะต้องมีช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย ทั้งเบอร์โทรศัพท์หน้าร้านและช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น FACEBOOK, LINE และ INSTAGRAM ที่สามารถติดต่อกับทางร้านได้ตลอดเวลาที่คุณสะดวก
3. เลือกร้านที่ไม่กดราคา
รู้หรือไม่ว่าการเช็กราคาทองไม่จำเป็นต้องไปถึงหน้าร้านเพียงอย่างเดียว คุณสามารถเช็กราคาเบื้องต้นได้จากเว็บไซต์สมาคมค้าทองคำ หรือเช็กจากแอปพลิเคชันเช็กราคาทองก็ได้ค่ะ เมื่อรู้ราคากลาง ๆ แล้วจึงลองสอบถามราคาซื้อขายกับร้านที่คุณสนใจ หากร้านแจ้งราคาที่เกินกว่าที่เราหาข้อมูลมาอยู่พอสมควร ให้ตัดร้านนั้นออกจากลิสต์ร้านที่น่าสนใจได้เลยค่ะ
4. เลือกร้านที่พิสูจน์ทองด้วยเครื่องตรวจทอง
แม้ว่าร้านทองส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะพิสูจน์ทองด้วยเครื่องตรวจทอง แต่ก็ยังมีอีกหลายร้านที่เผาไฟพิสูจน์ทองอยู่ดี ซึ่งเป็นวิธีที่มีผลทำให้เนื้อทองเสียหาย แม้ว่าทองจะทนทานต่อการเผาไฟ เป็นผลทำให้ราคาขายทองลดลง ยิ่งถ้าเป็นทองรูปพรรณด้วยแล้วล่ะก็ ราคาก็จะตกจนน่าใจหายแน่นอนค่ะ แต่หากร้านไหนมีเครื่องตรวจทองก็ถือว่าดีไม่น้อยเลยค่ะ เพราะเครื่องชนิดนี้สามารถบอกองค์ประกอบทั้งหมดของทองรูปพรรณได้โดยไม่ทำให้ทองมีตำหนิแม้แต่น้อย ช่วยให้เราซื้อขายทองได้ในราคาที่เต็มมูลค่านั่นเองค่ะ
บทความที่น่าสนใจ
- แนวโน้มราคาทองคำ ปี 2567 เป็นอย่างไร ซื้อขายดีไหม มาอ่านกัน
- ขายทองยังไงให้ได้ราคาดี เรามี 3 คำแนะนำแบบง่าย ๆ มาฝาก
- ซื้อทองทำกำไรเลยดีไหม ซื้อทองตอนไหนดี เรามีคำตอบ
ซื้อขายทองที่ไหนดี ทำไมต้อง BKK Diamond
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านรับซื้อเพชรที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นเวลานาน ทางเรา BKK DIAMOND มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ช.ม. เรามีหน้าร้านหลายสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการ มีเครื่องตรวจสอบทองซึ่งจะช่วยให้คุณขายได้ราคาเต็มมูลค่า เพราะเราให้ราคาซื้อ-ขายตามมาตรฐานการรับซื้อทองโดยอ้างอิงจากราคาทองรายวันสมาคม ทั้งนี้เรากล้าการันตีเลยว่าทางเราไม่มีการกดราคาทอง หรือเครื่องประดับทองของคุณแน่นอน นอกจากนี้เรายังมีช่องทางการส่งต่อเครื่องประดับทองของคุณถึงกลุ่มลูกค้า END USER โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ราคารับซื้อสูงสุดตามราคาตลาดแน่นอน
หากใครไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเอง ทางเรามีบริการ EXCLUSIVE PRIVATE หรือบริการรับซื้อถึงที่โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจ ปลอดภัย เพราะพนักงานทุกคนผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และได้รับวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้คุณสามารถซื้อ-ขายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด เพียงแค่เลือกวันเวลาที่คุณสะดวกและนัดหมายล่วงหน้าเราได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้บริการกับเรา