หลังจากผ่านไปไตรมาสแรกจะเห็นว่ามีนาฬิการุ่นต่างๆ จากโรเล็กซ์วางจำหน่ายมากมาย ว่าแต่มีเรือนไหนรุ่นไหนในปี 2022 นี้ที่เหมาะต่อการเก็งกำไรหรือใส่ไว้เองบ้าง มาดูกันครับ
Rolex 2022 รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง?
1. Rolex Oyster Perpetual Datejust 31
Rolex Oyster Perpetual Datejust 31 ยังคงเอกลักษณ์ไว้อยู่นั่นก็คือนาฬิกาข้อมือที่มีกลไกไขลานอัตโนมัติ มาพร้อมกับขนาดกรอบ 36 mm ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ตัวเลขบอกวันเวลาชัดเจนบนหน้าปัดบริเวณ 3 นาฬิกา และ Cyclops lens เพื่อเพิ่มความเด่นชัดในการมองเห็นวันที่ และตัวสาย Jubilee ประกอบจากข้อต่อ 5 ชิ้นเรียงกัน ขอบหน้าปัดแบบร่อง ส่วนตัวเรือน Oyster case นั้นกันน้ำได้ดี ถือเป็นจุดเด่นและเป็นมาตรฐานของ Rolex Datejust ไปโดยปริยาย
มาพร้อมหน้าปัดลายดอกไม้ผสานสามพื้นผิวอันแตกต่าง ทั้งซันเรย์แบบด้านและหยาบ โดยใช้เทคนิคตกแต่งผิวสัมผัสในขั้นตอนสุดท้าย เพื่อสื่อถึงทักษะอันประณีตของช่างฝีมือเพื่อผลิตหน้าปัด พื้นผิวประดับด้วยเพชรขนาดแตกต่างกันจำนวน 24 เม็ด ประดับบนทองคำ 18 กะรัต เพื่อขับให้เพชรส่องประกายกลางมวลดอกไม้ โดยในรุ่นนี้มีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน ได้แก่
- White Rolesor (ผสมผสานระหว่าง Oystersteel และทองคำขาว) มาพร้อมหน้าปัดลายดอกไม้สีฟ้าอัซซูร์โร ขอบหน้าปัดแบบร่อง และสายนาฬิกา
- Oyster Yellow gold 18 กะรัต มาพร้อมหน้าปัดลายดอกไม้สีเขียวมะกอก ขอบหน้าปัดประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร 46 เม็ด และสายนาฬิกา
- President Everose Rolesor (ผสมผสานระหว่าง Oystersteel และ Everose gold) มาพร้อมหน้าปัดลายดอกไม้สีเงิน ขอบหน้าปัดประดับเพชรเจียระไนเหลี่ยมเกสร 46 เม็ด และสายนาฬิกา Jubilee
ราคาตามเว็บไซต์ของ Oyster Perpetual Datejust อยู่ที่ 358,100 บาท
2. OYSTER PERPETUAL ROLEX DEEPSEA
มาพร้อมขอบนาฬิกา CERACHROM สีดำทำจากเซรามิก โดดเด่นด้วยหน้าปัด D-blue และมาร์คเกอร์ขนาดใหญ่แสดงชั่วโมงเรืองแสง นาฬิกาจึงกันน้ำได้ลึกถึง 3,900 เมตร (12,800 ฟุต) และขอบหน้าปัดแบบหมุนได้แสดงเวลา 60 นาที นาฬิกา Rolex Sea-Dweller ถูกออกแบบมาเพื่อสำรวจใต้ท้องทะเลให้แก่นักดำน้ำที่มีความทนทานต่อแรงดันน้ำและการกัดกร่อนสูงมาก โดยหน้าปัดสี D-BLUE ซึ่งไล่เฉดมาตั้งแต่สีฟ้าแพรวพรายไปจนถึงสีดำสนิท เพื่อเป็นเกียรติแก่การดำน้ำของ James Cameron ที่เดินทางไปยังแนวร่องลึกใต้ทะเลที่ลึกที่สุดในโลก หรือก้นสมุทรมาเรียนาเทรนช์
ขอบนาฬิกาประกอบด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom สีดำที่ผลิตขึ้นนั้นทำจากเซรามิกที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนและความซีดจางจากรังสีอัลตราไวโอเลต ผ่านกระบวนการเคลือบ PVD ด้วยแพลทินัมบางๆ ส่วนหน้าปัดสีดำเน้นความโดดเด่นด้วย Chromalight เคลือบมาร์กเกอร์ขนาดใหญ่ที่แสดงชั่วโมงและวินาที พร้อมพรายน้ำที่ปล่อยแสงสีฟ้าได้เป็นเวลานาน เหมาะกับการอ่านเวลาในใต้ท้องทะเลที่มืดมิดได้นานขึ้ อีกทั้งมีขอบนาฬิกาแสดงเวลา 60 นาทีแบบหมุนได้หลายทิศทาง ช่วยควบคุมเวลาและหยุดปรับแรงดันได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยมากขึ้น ส่วนตัวสายที่ประกอบด้วยชุดตัวล็อก Oysterlock ช่วยป้องกันสายนาฬิกาหลุดออกเองโดยไม่ได้ตั้งใจ และระบบ Glidelock ช่วยให้ปรับความยาวของสายนาฬิกาได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย โดยตัวสายมีความทนทาน ให้ความรู้สึกสบายขณะสวมใส่
ราคาตามเว็บไซต์ของ OYSTER PERPETUAL ROLEX DEEPSEA อยู่ที่ 503,600 บาท
3. Rolex oyster perpetual yacht-master 42
ที่มาของนาฬิกาได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแล่นเรือในยุค 1950 เพื่อสร้างรีเก็ตตาโครโนกราฟที่เอื้อต่อการแข่งแล่นเรือยอร์ชมากขึ้น ตัวหน้าปัดมองเห็นชัดเจน โดดเด่นด้วยเทคนิคเฉพาะของการนับถอยหลังแบบตั้งโปรแกรมได้เองจาก 1-10 นาที เพื่อการจับเวลาที่แม่นยำและติดตามขั้นตอนการปล่อยตัวจากจุดสตาร์ทได้ในแต่ละการแข่งขัน พร้อมหน่วยความจำเชิงกลและฟังก์ชันการซิงโครไนซ์ขณะที่ระบบทำงาน ช่วยให้ซิงโครไนซ์ให้ตรงกับการเปลี่ยนแปลงตารางนับถอยหลังของการแข่งขันได้ในขณะที่ไม่หยุดนิ่ง
ส่วนขอบหน้าปัด Ring Command ทำงานอิสระจากกลไกภายใน แต่ขอบหน้าปัดกับรีเก็ตตาโครโนกราฟจะทำงานควบคู่กัน เนื่องจากเป็นส่วนประกอบเชิงกลที่เชื่อมโยงกับกลไกลการทำงาน ตัวขอบหน้าปีดจึงมีหน้าที่หลักในการตั้งระบบนับถอยหลัง ช่วยปรับตั้งและซิงโครไนซ์ลำดับเวลาเริ่มต้นของการแข่ง ซึ่งขอบหน้าปัดเป็นขั้นแบบหมุน 60 นาที ช่วยให้ผู้สวมใส่คำนวณเวลาล่องเรือระหว่างทุ่น 2 ทุ่นได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ตัวเรือนยังทนทานต่อสภาพอากาศและกันน้ำได้ดีอีกด้วย
ราคาตามเว็บไซต์ของ Rolex oyster perpetual yacht-master 42 อยู่ที่ 1,007,100 บาท
4. OYSTER PERPETUAL LADY-DATEJUST
หากพูดถึงโรเล็กซ์อีกรุ่นหนึ่งที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สาวๆ นั่นก็คือ OYSTER PERPETUAL LADY-DATEJUST ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ต้นทศวรรษที่ 20 โดยเน้นให้ใส่ดูช่วยให้ข้อมือดูสวยขึ้นเพื่อสื่อถึงความสง่างามและความแข็งแกร่งในเวลาเดียวกันโดยเน้นไปที่คุณผู้หญิงเป็นหลักตามความตั้งใจของผู้ก่อตั้ง Rolex อย่าง Hans Wilsdorf
ในส่วนของขอบหน้าปัดให้เลือกหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับความต้องการของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นแบบร่อง แบบโดม หรือประดับเพชร ส่วนมาร์คเกอร์ชั่วโมงมีทั้งแบบเรียบ แบบตัวเลขโรมัน และแบบประดับอัญมณี
นอกจากความสวยงามเลอค่าแล้ว ตัวเรือนมีความทนทานต่อการสึกกร่อนสูง แถมยังกันน้ำระดับความลึก 100 เมตร หรือ 330 ฟุต ได้ด้วยเช่นกัน
ราคาตามเว็บไซต์ของ OYSTER PERPETUAL LADY-DATEJUST อยู่ที่ 1,406,300 บาท
สำหรับใครที่กำลังมองหานาฬิกา Rolex สักเรือนที่สภาพดีและราคาสมเหตุสมผล BKK Diamond พร้อมให้คำปรึกษาตลอด 24 ชม. โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ หรือหากต้องการนำมาขาย ทางเรามีช่างมากประสบการณ์สามารถประเมินราคาโดยไม่ต้องแกะเครื่อง ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากเรานั่นเอง
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
5 ความอุ่นใจที่คุณจะได้รับจากร้านรับซื้อ Rolex ชั้นนำ
Rolex Daytona กับความเป็นมาที่น่าหลงไหลสำหรับสาวกโรเล็กซ์
Rolex Oyster Perpetual Datejust: นาฬิกาที่อยู่เหนือกาลเวลามาเกือบศตวรรษ