ช่วงหลังมานี้ใครหลายคนอาจสังเกตเห็นว่ามีเศษทองวางขายจำนวนมากขึ้น แต่หลายคนอาจไม่รู้หรือไม่แน่ใจมาก่อนว่าทองประเภทนี้เป็นทองปลอมหรือไม่? นำมาขายต่อได้ราคามั้ย? วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ
เศษทองคืออะไร
เป็นสะเก็ดทองคำแท้ที่ผ่านกระบวนการผลิตแล้วหลุดลอกออกมา ซึ่งช่างทองอาจนำมาแปรรูปเป็นเครื่องประดับเศษทองโดยการนำเศษที่ได้มาผสมกับโลหะอื่น และนำมาหลอมใหม่เป็นเนื้อเดียว เพื่อนำมาลงบล็อกเดิมที่มีลวดลายแตกต่างกันไป จนได้เครื่องประดับเศษทองคำแท้คุณภาพดีที่มีสีและน้ำหนักใกล้เคียงกับทองรูปพรรณมากที่สุด
แต่ในปัจจุบันคำว่าเศษทองถูกนำมาใช้ในการขายทองปลอมของมิจฉาชีพผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ซึ่งมักจะนำมาขายในรูปแบบเครื่องประดับราคาถูกกว่าตลาดหลายเท่าตัว โดยอ้างว่าเป็นทองจากร้านทองเยาวราชเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ตัวเอง จึงมีผู้ที่ไม่รู้หลงซื้อเศษทองแปรรูปมาใช้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากจะซื้อเครื่องประดับเศษทอง หรือต้องการนำเศษทองมาขายตามร้านทองอาจต้องระมัดระวังให้ดี ควรตรวจสอบร้านทองที่จะซื้อ-ขายเครื่องประดับเศษทองทุกครั้ง ในกรณีที่ช่างทองต้องการนำเศษทองมาขายนั้นจะต้องได้รับการยินยอมจากเจ้าของร้านทองที่ตนทำงานด้วยมาก่อน
มีวิธีสังเกตมั้ยว่าเศษทองที่ได้มาเป็นของแท้หรือปลอม
1. ตราประทับ
โดยทั่วไปสมาคมค้าทองคำจะตีตราแบรนด์ของร้านเพื่อควบคุมมาตรฐานทอง รวมถึงบอกแหล่งผลิตและปริมาณความบริสุทธิ์ของทองเอาไว้ตามห่วง ซึ่งทองแท้มีคุณสมบัติอ่อนตัวง่ายจึงประทับตราลงไปในทองด้วยได้
2. ชั่งน้ำหนัก
นำทองไปชั่งน้ำหนักเทียบกับระหว่างทองแท้และทองปลอม จะเห็นว่าต่อให้รูปร่างของทองแท้จะเป็นเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ก็ตามแต่มีน้ำหนักเท่ากัน ส่วนทองปลอมจะมีน้ำหนักเท่ากับทองแท้แต่จะมีขนาดใหญ่กว่าชัดเจน โดยน้ำหนักมาตรฐานของทองรูปพรรณ 96.5% ตามที่สมาคมค้าทองคำกำหนดไว้ ดังนี้
- ทอง 1 สลึง มีน้ำหนัก 3.79-3.81 กรัม
- ทอง 2 สลึง มีน้ำหนัก 7.58-7.62 กรัม
- ทอง 1 บาท มีน้ำหนัก 15.16-15.24 กรัม
- ทอง 2 บาท มีน้ำหนัก 30.32-30.4 กรัม
3. ใช้แม่เหล็ก
ถ้าเป็นทองแท้จะไม่ถูกแม่เหล็กดูด หากถ้าถูกดูดแสดงว่าทองปลอมแน่นอน
4. ใช้น้ำกรดไนตริก
นำกรดไนตริกหยดลงบนทอง หากเกิดรอยแหว่งแสดงว่าเป็นของปลอม เพราะของแท้จะไม่เกิดรอยใดๆ
5. ใช้เล็บจิกหรือฟันกัด
เนื่องจากทองแท้มีความอ่อนตัวสูง อาจยุบตัวหรือเกิดรอยง่ายเมื่อกัดหรือเล็บจิก ทั้งนี้ไม่ต้องออกแรงเยอะมากเพราะอาจทำให้ทองผิดรูปไปจากเดิม ทั้งนี้วิธีนี้อาจไม่เหมาะสำหรับการตรวจเช็กระหว่างทองแท้และทองคำเปอร์เซ็นต์ต่ำ เนื่องจากทองปลอมมีความแข็งสูง จึงไม่เกิดรอยใดๆ
6. สังเกตรอยต่อ
หากพบสีที่แตกต่างจากเดิมบริเวณขอบหรือรอยต่อของทอง แสดงว่าเป็นทองปลอม
7. เผาไฟ
หากนำทองไปเผาไฟแล้วกลับสู่สีทองเหมือนวันแรกที่ซื้อมาแสดงว่าเป็นของแท้แน่นอนเนื่องจากรอยหมองของทองนั้นเกิดจากสารปรอท หรือสารอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกาย ซึ่งถูกชะล้างและสะสมตามเครื่องประดับทองจนเกิดรอยหมอง การเผาไฟจึงละลายสารที่ติดตามทองให้หลุดออกทันที ทั้งนี้ไม่ควรเผาไฟนานเกินไปเพราะอาจทำให้ทองผิดรูปได้ ส่วนทองปลอมหากถูกเผาไฟจะเป็นสีดำทันที
8. โยนลงกระจก
โดยทั่วไปเนื้อของทองแท้จะนุ่ม ไม่เหมือนทองแดงหรืออะลูมิเนียมที่แข็งกว่า หากโยนลงกระจก เสียงกระทบจะไม่ดังแหลม แต่ถ้าเป็นทองปลอมจะมีเสียงแหลมชัดเจน
9. จานเซรามิก
นำทองแท้มาฝนบริเวณก้นจากเซรามิกเบาๆ ประมาณ 15-30 วินาที เพื่อให้เนื้อทองเสียหายน้อยที่สุด ถ้าเป็นทองแท้จะไม่เกิดรอยใดๆ ตรงก้นจาน แต่หากเป็นของปลอมจะเกิดรอยดำตรงก้นจาน เนื่องจากทองปลอมมีส่วนผสมของทองแดง หรือตะกั่วผสมอยู่เยอะ ทำให้เนื้อหลุดออกมาเป็นสีดำนั่นเอง
เศษทองขายได้มั้ย ราคาเท่าไหร่
โดยทั่วไปสะเก็ดทองหรือเศษทองจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 1 ใน 4 หรือ 5 ของน้ำหนักทองแท่งนั้น ดังนั้นร้านทองส่วนมากจึงไม่รับซื้อ ส่วนโรงรับจำนำก็ไม่รับจำนำด้วยเช่นกัน แต่ทางเรา BKK Diamond มีเครื่องตรวจทอง Goldscope sd 520 สามารถตรวจสอบทองได้โดยไม่ทำให้เนื้อทองเสียหาย รวมถึงดูส่วนผสมอื่นในเศษทองได้อีกด้วย ราคาขายที่คุณจะได้จึงเป็นราคาดีที่สุด โดยเรทราคาจะอ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำ ซึ่งคุณสามารถตรวจสอบราคาทองได้เองที่นี่
สำหรับใครที่มีเศษทองแล้วต้องการนำมาขายร้านรับซื้อ-ขายทองที่มีมาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นเวลานาน รวมถึงมีหน้าร้านหลายสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการ ทางเรา BKK Diamond มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ช.ม. เพื่อให้ท่านได้ราคาที่ดีและตรงกับความต้องการของตลาดที่สุด นอกจากนี้ยังมีนาฬิกาแบรนด์และสินค้าอื่นๆ ให้ท่านเลือกมากมาย รวมถึงช่องทางติดต่อที่หลากหลายเพื่อให้ทุกท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้บริการกับเรา