โรเล็กซ์จัดเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนให้ความสนใจ นอกจากในฐานะของนาฬิกาที่คุ้มค่าต่อการใช้งานแล้ว ยังมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจ ทำให้ผู้มีชื่อเสียงหันมาสวมใส่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งนาฬิกาจากแบรนด์นี้เป็นงานแฮนด์เมดที่ใช้วัสดุระดับดีเยี่ยม จำนวนที่ผลิตออกมาจึงน้อยและเป็นที่ต้องการของตลาดมาก ทำให้มีราคาที่พุ่งสูงขึ้นในทุก ๆ ปี โดยเฉพาะรุ่นยอดนิยมที่ราคารีเซลพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่า ดังนั้นหากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจหันมาเล่นโรเล็กซ์เป็นครั้งแรกหรือต้องการซื้อเก็บไว้เก็งกำไรแล้วล่ะก็ วันนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกซื้อ Rolex เรือนแรกมาฝากครับ
Rolex เรือนแรกซื้อได้ที่ไหนบ้าง
1. ซื้อจากช็อปโดยตรง
กรณีที่คุณไม่เคยมี Rolex มาก่อนและต้องการซื้อนาฬิการุ่นทั่วไป ไม่เป็นที่นิยมของตลาดมากนัก อาจซื้อขายกับช็อปได้ทันทีหากมีสินค้า แต่ถ้าคุณอยากได้รุ่นยอดนิยมอย่าง Daytona, GMT Master II และ Submariner คุณไม่สามารถซื้อได้ทันทีเนื่องจากสินค้ามีจำกัด นอกจากนี้อย่าลืมนะครับว่า ใคร ๆ ก็อยากได้อยู่แล้ว คิวยาวมากแน่นอน ดังนั้นหากคุณอยากซื้อกับช็อปจริง ๆ พนักงานจะให้คุณลงชื่อแสดงความสนใจเอาไว้ก่อน เมื่อถึงคิวของคุณแล้วจะได้สิทธิ์ซื้อโรเล็กซ์รุ่นนั้นไป แต่ในความเป็นจริง การลงชื่อรอซื้อเป็นไปได้ยากที่โรเล็กซ์จะตกถึงมือเรา เนื่องจากโรเล็กซ์มีลูกค้าทั้งหมด 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ กลุ่มคนรักโรเล็กซ์, กลุ่มคนซื้อเพื่อเก็งกำไร และกลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ต้องการโรเล็กซ์ไว้ใส่สักเรือน ทางโรเล็กซ์จะให้สิทธิ์ลูกค้าที่เคยซื้อโรเล็กซ์มาก่อนเป็นอันดับแรก นั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องรอคิวถัดจากลูกค้า 2 กลุ่มแรกไปอีกนานจนคุณลืมไปแล้วก็เป็นได้
2. ซื้อจากร้านซื้อขายโรเล็กซ์มือสอง (Retail)
การซื้อจากร้านซื้อขายโรเล็กซ์มือสองถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่หาซื้อจากช็อปไม่ได้ เนื่องจากไม่มีวางจำหน่ายในช็อป ทางเราขอแนะนำให้ลองค้นหาร้านซื้อขายมือสองตามช่องทางโซเชียลต่าง ๆ โดยเสิร์ชชื่อรุ่นลงไปในช่องค้นหา จากนั้นดูสภาพสินค้าและราคาที่ต้องการซื้อ ทั้งนี้ควรศึกษาราคาตลาดมาเบื้องต้นก่อนว่ารุ่นนั้น ๆ มีราคาประมาณเท่าไหร่ ทั้งนี้ขอแนะนำให้เช็กราคาของตลาดโลกจากเว็บไซต์ Chrono24 ป้องกันการถูกกดราคาจากร้านที่หวังฟันกำไรเกินควร
ราคา Rolex พุ่งสูงขึ้นทุกปีเกิดจากอะไร
1. สินค้าผลิตไม่ทันต่อความต้องการ
เนื่องจากการผลิตนาฬิกา 1 เรือนนั้นจะต้องใช้วัสดุคุณภาพดีและผลิตด้วยมือจากผู้เชี่ยวชาญแต่ละศาสตร์ทุกขั้นตอน ทั้ง Oystersteel, ทองคำ 18 กะรัต, อุกกาบาต และอื่น ๆ อีกมาก ซึ่งผ่านการทดสอบหลาย ๆ รอบเพื่อสมรรถนะที่ดีที่สุดในการใช้งาน ไม่บุบสลายตามกาลเวลา รวมถึงกลไกที่ซับซ้อนจนไม่มีใครเลียนแบบได้ 100% ทำให้เป็นโรเล็กซ์ที่ดึงดูดใจของคนรักนาฬิกาทั่วโลก โดยเฉพาะรุ่น Limited ที่สำคัญบางรุ่นมีการปรับดีไซน์ใหม่ ทำให้รุ่นเก่าที่วางจำหน่ายกลายเป็นของหายากที่นักสะสมต้องการไว้ในครอบครอง แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้นำมาขายเนื่องจากมูลค่าทางใจที่ประเมินไม่ได้ ยิ่งทำให้นาฬิกาโรเล็กซ์หายากมากยิ่งขึ้นด้วย
2. วิกฤตการณ์โควิด-19
เนื่องจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ปี 2020 ทำให้โรงงานโรเล็กซ์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ต้องหยุดการผลิตไปหลายเดือน ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกมายืนยันว่าจะไม่เพิ่มกำลังผลิตนาฬิการุ่นที่ได้รับความนิยมสูง เพราะทางแบรนด์ไม่ต้องการลดคุณค่าของสินค้าลงด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าในระยะยาวให้แก่ผู้ครอบครองนาฬิการุ่นนั้นนั่นเอง
3. มีกลุ่มคนสะสมมากขึ้น
โรเล็กซ์นับเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่ช่วยขับเคลื่อนโลกของนาฬิกา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วในการแข่งขันรถยนต์อย่าง Daytona, ระบบกันน้ำสำหรับดำน้ำลึกอย่าง Submariner หรือแม้แต่การเป็นผู้บุกเบิกวงการนาฬิกาข้อมือเป็นแบรนด์แรกของโลกอย่างรุ่น Oyster Perpetual Datejust และเป็นตัวแทนผู้ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกหลาย ๆ คน ได้แก่ Rolex Daytona Paul Newman ของ Paul Newman นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดัง และ Rolex Explorer ของ John Hunt, Baron Hunt นักปีนเขาผู้พิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ในปี 1953
Rolex รุ่นไหนราคาไม่ตก
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการซื้อโรเล็กซ์ไว้สำหรับลงทุนเก็งกำไร วันนี้เราจะมาแนะนำโรเล็กซ์รุ่นยอดนิยมที่ใคร ๆ ต่างก็อยากจับจองเป็นเจ้าของ ด้วยรูปลักษณ์, ฟังก์ชันการใช้งาน และประวัติความเป็นมาของแต่ละรุ่นที่น่าสนใจ รับรองว่าหากคุณซื้อไปขายต่อแล้วล่ะก็ มีคนรอซื้อแน่นอนครับ ว่าแต่จะมีรุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลยครับ
1. Daytona
1 ในนาฬิการุ่นยอดนิยมที่ใครหลายคนต่างให้ความสนใจเรือนนี้มีชื่อเสียงจาก Paul Newman นักแสดงฮอลลีวูดและนักแข่งรถชื่อดังในยุคนั้น พอลได้รับนาฬิการุ่นนี้จากภรรยาในช่วงแข่งรถ โดยตัวเรือนสลักคำว่า Drive carefully me แสดงถึงความเป็นห่วงจากภรรยา พอลจึงใส่นาฬิกาเรือนนี้ไปทุกที่ ไม่ว่าจะเข้าฉากหรือแข่งรถก็ตาม และเมื่อนาฬิกาเรือนนี้ออกสู่สายตาประชาชนมากขึ้น ยอดขายของ Daytona จึงเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากเดิมอยู่ที่ 7,000 บาท (ในยุคนั้น) กลายมาเป็น 7,500,000-32,000,000 บาท ในเวลาต่อมาครอบครัว Newman ตัดสินใจนำนาฬิกาเรือนนั้นไปประมูลเพื่อนำรายได้มอบให้มูลนิธิ Newman’s Own ของลูกสาวของพอล โดยมีผู้ประมูลไม่ประสงค์ออกนามประมูลไปในราคา 17,752,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 610,000,000 บาท) ส่วนราคามือสองของรุ่นนี้ในปัจจุบันประมาณ 920,000 – 2,100,000 ล้านบาท
นอกจากประวัติที่น่าสนใจแล้วจุดเด่นของ Daytona อยู่ที่มาตรวัดความเร็ว Tachymeter ที่มีขนาดใหญ่กว่านาฬิการุ่นอื่นของโรเล็กซ์ เหมาะกับการใช้จับความเร็วในสนามแข่ง ทางโรเล็กซ์มีการเปลี่ยนปุ่ม Pusher ใหม่ให้เป็นแบบ Screw-in เพิ่อให้กันน้ำได้ดียิ่งขึ้น ส่วน Manual Mechanical Movement ที่ใช้ตั้งแต่รุ่นแรกมีการปรับปรุงระบบซึมซับแรงกระแทกเพิ่มเติมด้วย, มีการเพิ่มขนาด Escapement และลดความถี่ลงเหลือ 28,800 เพื่อยืดอายุการใช้งานและประหยัดพลังงานกว่าเดิมและตัดฟังก์ชันวันที่ออก ทำให้ใช้ชิ้นส่วนเพียง 50% ของกลไกดั้งเดิมที่มีมากถึง 400 ชิ้น
2. Explorer Oystersteel
ด้วยหน้าปัดสีดำโดดเด่น มาพร้อมกับตัวเลข 3 , 6 และ 9 เคลือบด้วย Chromalight ซึ่งเป็นสารเรืองแสงยอดนิยมของโรเล็กซ์ทำให้รุ่นนี้เป็นที่หมายตาของใครหลายคนมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีขอบหน้าปัดแบบเรียบทำจาก Oystersteel ซึ่งเป็นอัลลอยในตระกูลเหล็กกล้า 904L ที่ใช้ในอุตสาหกรรมเคมี มีความทนทานต่อการสึกกร่อนสูง แถมยังเงางามง่ายเพียงแค่ขัดทำความสะอาด ตัวสายนาฬิกาประกอบด้วยชุดตัวล็อกแบบพับ Oysterlock ป้องกันการเลื่อนเปิดออกเอง มาพร้อมระบบขยายสาย Easylink ช่วยให้ผู้สวมใส่ปรับความยาวสายได้เพิ่มอีก 5 มิลลิเมตร อีกทั้งกันแรงกระแทก, น้ำ และสนามแม่เหล็กได้ดีเยี่ยม มีเสถียรภาพสูงหากเจอความผันผวนของอุณหภูมิ เหมาะสำหรับนักเดินทางและนักสำรวจโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเพิ่มขอบ Bezel บอกเวลาแบบ 24 ชั่วโมง ช่วยให้ทราบเวลาขณะนั้นว่าเป็นช่วงกลางวันหรือกลางคืน (กรณีที่อยู่พื้นที่ขั้วโลกเหนือ)
3. Rolex Sea-Dweller
หนึ่งในรุ่นคลาสสิกของโรเล็กซ์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับดำน้ำลึกโดยเฉพาะ สามารถกันน้ำในระดับความลึกสูงสุดอยู่ที่ถึง 4,000 ฟุต (ประมาณ 1,220 เมตร) มาพร้อมกลไก Workhorse (3135) ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานมากที่สุดของแบรนด์ ขอบหน้าปัดบอกเวลา 60 นาทีแบบหมุนได้ ประกอบด้วยขอบหน้าปัด Cerachrom ทำจากโลหะผสมเซรามิกซึ่งทางแบรนด์คิดค้นขึ้นเอง ช่วยให้ฝาของนาฬิกาทนต่อการซีดจางจากรังสีอัลตราไวโอเลต แถมยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีอีกด้วย
ส่วนหน้าปัดสีดำโดดเด่นด้วย Chromalight เคลือบมาร์คเกอร์แสดงชั่วโมงและเข็มแสดงวินาทีขนาดใหญ่ มาพร้อมพรายน้ำที่ปล่อยแสงสีฟ้าเป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดี นอกจากนี้ยังมีระบบ Ringlock ที่มีส่วนประกอบสำคัญอย่าง Nitrogen-Alloyed Stainless Steel Compression Ring ช่วยลดปริมาณแรงดันที่เกิดขึ้นขณะดำน้ำในระดับความลึกที่มากขึ้นด้วย สำหรับราคาของ Rolex Sea-Dweller ในเว็บไซต์ Rolex เริ่มต้นที่ 458,800 บาท (ณ วันที่ 14 ตุลาคม 2565)
สายลงทุนนาฬิกาแบรนด์ต้องรู้ ซื้อ Rolex รุ่นไหนราคาไม่ตกเลย
วิธีเช็ก Rolex ด้วยตัวเอง
- โลโก้ โรเล็กซ์ทุกเรือนจะมีสัญลักษณ์มงกุฎบริเวณหน้าปัด (ใกล้ตำแหน่ง 12 นาฬิกา) คุณสามารถส่องดูได้ว่ามงกุฎนูนมากน้อยแค่ไหน และตัวเส้นขอบของมงกุฎส่องประกายมากกว่าภายในหรือไม่? หากมงกุฎดูแบนราบ หรือสัญลักษณ์มงกุฎไม่ได้อยู่บนตำแหน่ง 6 นาฬิกา แสดงว่าเป็นของปลอม
- เข็มวินาที เนื่องจากทำงานด้วยกลไกในระบบจักรกลที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะ ทำให้ตัวเข็มวินาทีจะหมุนประมาณ 5-8 ครั้ง/วินาที ไม่ขยับตามเข็มนาฬิกาทั่วไป
- เสียงเข็มวินาที ด้วยกลไกในระบบจักรกล ทำให้เข็มวินาทีเคลื่อนที่โดยไม่มีเสียงติ๊กเหมือนกับระบบควอทซ์ของนาฬิกาทั่วไป
- เม็ดมะยม หากคลายเม็ดมะยมและหมุนเข็มวินาทีถอยหลังเพื่อเปลี่ยนวันที่ แล้วเข็มนาทีหมุนมายังตำแหน่ง 6 นาฬิกา แสดงว่าเป็นของแท้
- เลนส์ Cyclops เป็นเลนส์ขยายบริเวณเหนือช่องสำหรับบอกวันที่บนหน้าปัดนาฬิกา ลักษณะเลนส์จะนูนขึ้นมาทางขวามือบริเวณ 3 นาฬิกาพอดี ตัวเลนส์ถูกพัฒนาให้ขยายตัวเลข 2.5 เท่า ช่วยให้คุณอ่านวันที่ง่ายขึ้น
- ตัวอักษร ตัวอักษรบนหน้าปัดของโรเล็กซ์จะมีขนาดเท่ากันทั้งหมด, ตัวอักษรไม่เลือนลาง, มีระยะห่างเท่ากัน และไม่มีคำผิดแม้แต่น้อย
- ระบบป้องกันน้ำ โรเล็กซ์รุ่นทั่วไปจะถูกออกแบบมาให้กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง หากคุณใส่โรเล็กซ์ลงน้ำแล้วมีน้ำเข้านาฬิกาทันที แสดงว่าเป็นของปลอม
- เทียบน้ำหนัก หากนำโรเล็กซ์มาชั่งน้ำหนักเทียบกัน จะพบว่าของปลอมเบากว่าของแท้ประมาณ 1/3 เท่า เนื่องจากโรเล็กซ์แท้ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง
- รุ่นและรหัสสินค้า ของแท้จะสลักรหัสสินค้าที่มีความคมชัดสูง และสะท้อนแสงออกมาก็ต่อเมื่อตัวอักษรทำมุมกับแสงในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
สำหรับใครที่ต้องการขอคำปรึกษาเกี่ยวกับการซื้อขายโรเล็กซ์ ทางเรา BKK Diamond มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ชม. เพื่อให้ท่านได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อขายที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด หรือหากคุณต้องการซื้อขายทองรูปพรรณหรือเครื่องประดับอื่น ไม่ว่าจะเป็นนาฬิกาแบรนด์, กำไลข้อมือ, สร้อยคอ และอย่างอื่นก็ตาม ทางเรามีของให้ท่านเลือกมากมายและมีช่องทางติดต่อที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ทุกท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้บริการกับเรา