สำหรับใครที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่วงการทองอันเนื่องมาจากความชื่นชอบในความงามของเครื่องประดับทองหรือแม้แต่ซื้อทองสำหรับลงทุนเก็งกำไรก็ตาม อาจสงสัยว่าเราควรเลือกซื้อทองแบบไหน ควรเลือกจากอะไรบ้าง วันนี้เรามีข้อแนะนำมาฝากครับ

แนะนำหลักการเลือกซื้อทองให้คุ้มกับราคาที่จ่ายไป

1. เลือกจากรูปแบบการใช้งาน

หากคุณต้องการซื้อทองรูปพรรณ (เครื่องประดับทอง) สามารถเลือกซื้อจากลวดลายที่ชอบและตำแหน่งที่ต้องการสวมใส่ ยกตัวอย่างเช่น บางคนใส่ตลอดทั้งวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งใส่อาบน้ำและใส่นอนก็ตาม จึงไม่เหมาะกับลวดลายที่มีลักษณะเป็นตุ่ม ๆ แต่หากคุณเป็นคนที่ใส่เฉพาะตอนออกงานเท่านั้น หรือใส่บ้างถอดบ้าง ก็ควรเลือกทองรูปพรรณที่สามารถถอดออกง่าย ไม่มีตะขอให้แกะออก หากคุณต้องการซื้อมาเผื่อขายในอนาคตอาจต้องทำใจสักหน่อย เนื่องจากทองรูปพรรณเป็นทองที่เหมาะสำหรับการใช้งาน จึงมีโอกาสที่ทองจะชำรุดจากการสัมผัสกับเหงื่อหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายจนทองมีน้ำหนักที่ลดลง รวมถึงค่ากำเหน็จที่มาทั้งตอนซื้อและตอนขายมากกว่าทองคำแท่ง

แต่หากคุณต้องการซื้อทองสำหรับลงทุน ทางเราแนะนำให้เลือกทองคำแท่งซึ่งมีโอกาสชำรุดน้อยกว่า และมีโอกาสทำกำไรในตลาดซื้อขายทองได้มากกว่า เนื่องจากมีค่าบล็อก (ค่าแรง) ถูก อีกทั้งไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการดูแลรักษามากเท่าทองรูปพรรณ

2. เลือกจากลวดลายของทองรูปพรรณ

กรณีที่คุณซื้อเครื่องประดับทองหรือทองรูปพรรณ แนะนำให้ดูว่าลวดลายที่ถูกใจคุณนั้นมีความแข็งแรงมากน้อยแค่ไหน เนื่องจากลวดลายทองส่งผลต่อความแข็งแรงของทองด้วยเช่นกัน โดยลายสร้อยทองที่ทอแน่น ๆ เช่น ลาย 4 เสา, ลาย 6 เสา, ลายกระดูกงู, ลายเปีย ฯลฯ จะมีความแข็งแรงทนทานมาก ส่วนลายสร้อยทองที่มีลักษณะโปร่งบาง หรือเป็นห่วงกลมคล้อง เช่น ลายไข่ปลา, ลายโซ่, ลายประคำคั่นโซ่ ฯลฯ จะมีความแข็งแรงน้อยกว่า จึงมีโอกาสชำรุดง่ายกว่า เสี่ยงต่อการขายต่อแล้วได้ราคาน้อยกว่าที่ซื้อมาพอสมควร

3. เลือกจากน้ำหนักทอง

ถือว่าเป็นปัจจัยแรกที่คุณควรพิจารณา เนื่องจากร้านทองส่วนใหญ่จะมีป้ายกำกับอยู่ที่ชิ้นทอง หากทางร้านออกใบรับประกันให้ จะต้องบันทึกน้ำหนักลงใบรับประกันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่าทางร้านจะไม่สับเปลี่ยนทองที่คุณซื้อเพื่อโกงราคา ในกรณีที่คุณซื้อหรือออมทองกับทางร้าน ส่วนมาตราชั่งตวงที่ร้านทองใช้จะมีหน่วยเป็นกรัม โดยมาตรฐานของทองรูปพรรณ 1 บาท จะต้องมีน้ำหนักมากกว่า 15.16 กรัม, ส่วนทองครึ่งสลึง จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.89 กรัม, ทอง 1 สลึง จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 3.79 กรัม, ทอง 2 สลึง จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 7.58 กรัม, ทอง 3 สลึง จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 11.37 กรัม น้ำหนักที่เป็น “กรัม” จะใช้ในการคิดราคาขายและราคารับซื้อคืน ดังนั้นคุณควรให้ทางร้านชั่งน้ำหนักของทองก่อนทำการซื้อขายทุกครั้ง เพื่อเช็กว่าน้ำหนักตรงตามที่ผู้ขายบอกหรือไม่

4. เลือกจากคุณภาพของทอง

อย่าลืมตรวจสอบตำหนิของทองว่ามีหรือไม่ โดยเฉพาะบริเวณข้อต่อและตะขอ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสชำรุดง่ายกว่าส่วนอื่น

5. เลือกจากค่ากำเหน็จของทอง

กรณีที่คุณซื้อทองรูปพรรณ อย่าลืมสอบถามข้อมูลกับทางร้านก่อน เกี่ยวกับค่ากำเหน็จ หรือค่าผลิตทองคำรูปพรรณให้มีลวดลาย (ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของการผลิตทองรูปพรรณ) และค่าการตลาดของผู้ประกอบธุรกิจร้านทอง ทั้งนี้คุณควรรู้อย่างหนึ่งก่อนว่า หากคุณซื้อทองคำแท่งที่มีมูลค่าสูงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีค่ากำเหน็จต่ำลง ทำให้หาคนซื้อต่อยาก, แบ่งขายลำบาก และมีโอกาสเจอทองปลอมอีกด้วย เนื่องจากทองคำแท่งปลอมสามารถหลอกคนที่ไม่รู้ได้แนบเนียนกว่าทองรูปพรรณ นอกจากนี้อย่าลืมค่าตรวจสอบทองด้วยนะครับ

6. เลือกจากราคาซื้อ-ขายโดยจะต้องอ้างอิงจากสมาคมค้าทองคำเสมอ

เรื่องราคาทองเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกที่คุณควรใช้ในการพิจารณาก่อนทำการซื้อขายทองเก่า เพื่อป้องกันการถูกกดราคาจากร้านทองที่ไม่ได้มาตรฐาน ร้านทองทั่วไปจะอิงราคาซื้อขายตามสมาคมค้าทองคำ ซึ่งเป็นสมาคมที่กำหนดค่ามาตรฐานของราคาซื้อขายทองในปัจจุบัน เพื่อป้องกันความเหลื่อมล้ำในการประกอบการค้าทอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาทอง, ค่ากำเหน็จ, การกำหนดเวลาเปิด-ปิดร้าน และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทอง ทางที่ดีเราขอแนะนำให้คุณสอบถามราคาทองเก่าที่ต้องการจะซื้อหรือขายจากร้านทองหลาย ๆ ร้าน เพื่อให้ได้ราคาที่เป็นมาตรฐานมากที่สุด หากพบว่าร้านไหนกดราคามากเกินมาตรฐาน แนะนำให้รีบตีตัวออกห่างจากร้านที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านั้นได้เลย ซึ่งคุณสามารถเช็กราคาทองในแต่ละวันจากเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำโดยตรงได้ตามลิงก์นี้เลยครับ

7. เลือกจากร้านที่ได้มาตรฐาน

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ไม่มีความรู้เกี่ยวกับทองมาก่อน ทางเราขอแนะนำให้เลือกร้านทองที่มีชื่อเสียง มีประสบการณ์การขายยาวนาน เนื่องจากร้านเหล่านี้จะมีหน้าร้านชัดเจนและมีใบอนุญาตซื้อ-ขายถูกต้องตามกฎหมาย เพิ่มความอุ่นใจในการซื้อขายของคุณมากขึ้น คุณสามารถเสิร์ชหาร้านโดยเบื้องต้นได้จากเว็บไซต์ Google หรือ Yahoo เพราะร้านดังส่วนใหญ่จะมีช่องทางการติดต่อหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับลูกค้าที่แตกต่างกันไป นอกจากนี้อาจหารีวิวของร้านที่เราสนใจตามเว็บบอร์ดเกี่ยวกับทองได้ด้วย ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านด้วย เนื่องจากมีมิจฉาชีพมากมายพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและหลอกให้เหยื่อติดกับดับโดยการตั้งชื่อช่องทางการติดต่อให้ใกล้เคียง หรือใช้ชื่อเดียวกับร้านทองดัง ทางที่ดีหากเจอร้านที่สนใจให้ลองสอบถามข้อมูลกับทางร้านเป็นอันดับแรก หากทีมงานตอบแบบตะกุกตะกัก หรือพยายามชักจูงให้เราซื้อ-ขายมากเกินไปโดยการยื่นข้อเสนอด้วยราคาที่เกินจริง หรือให้เราโอนมัดจำไปก่อน ให้ระวังเลยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพก็ได้ แนะนำให้โทรฯ ติดต่อสอบถามที่เบอร์ 1155 เพื่อเช็กข้อมูลเว็บไซต์หรือร้านเหล่านี้ว่าน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

นอกจากนี้ควรเลือกร้านรับซื้อที่มีทำเลร้านอยู่ใกล้ที่พักของเรา, อยู่ใกล้แลนด์มาร์ก หรือมีสาขามากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการเดินทาง, เลือกร้านที่มีช่องทางติดต่อหลากหลาย ทั้ง Facebook, Line หรือ Instagram สำหรับติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าร้านจะปิดมั้ย ติดต่อได้วันไหนบ้าง เนื่องจากร้านเหล่านี้มีทีมงานพร้อมตอบคำถามตลอด 24 ชม. หลังจากติดต่อร้านที่คุณสนใจได้แล้ว คุณอาจติดต่อเกี่ยวกับทองรูปพรรณหรือทองคำแท่งที่คุณสนใจ จากนั้นจึงนัดหมายตกลงราคากับทางร้าน และไปรับเงินที่ร้านตามที่คุณสะดวก

ทำไมต้องซื้อทองกับ BKK Diamond

แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังไม่คลาย ทำให้หลายคนระมัดระวังในการซื้อขายนอกบ้านมากขึ้น ทางเรา BKK Diamond มีระบบการซื้อขายแบบ Exclusive Private สามารถรองรับลูกค้ารอบละ 1 คน เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวให้แก่คุณ ซึ่งช่วยให้การซื้อ-ขายมีประสิทธิภาพและดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ เพียงแค่คุณนัดหมายเวลาล่วงหน้าเพื่อทำการซื้อขายนอกสถานที่ที่คุณสะดวก โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราผ่านการตรวจโควิดและฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว รวมถึงไม่มีประวัติอาชญากรรมให้กังวลใจด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณมั่นใจในการซื้อขายกับเรา

สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านรับซื้อทองที่มีมาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นเวลานาน รวมถึงมีหน้าร้านหลายสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการ ทางเรา BKK DIAMOND มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ช.ม. เพื่อให้ท่านได้ราคาที่ดีและตรงกับความต้องการของตลาดที่สุด นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับทอง, เงิน, นาก, นาฬิกาแบรนด์และสินค้าอื่น ๆ ให้ท่านเลือกมากมาย รวมถึงช่องทางติดต่อที่หลากหลายเพื่อให้ทุกท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้บริการกับเรา