บนโลกนี้มีอัญมณีมากมายที่เกิดจากแร่หรือหินซึ่งสะสมตามแหล่งธรรมชาติใต้พื้นดิน ซึ่งถูกนำมาใช้ในรูปแบบต่างๆ พลอยคือหนึ่งในอัญมณีที่นิยมนำมาใช้ในวงการแฟชั่นอย่างแพร่หลาย แต่สำหรับนักสะสมอัญมณีมือใหม่หลายคนอาจได้ยินคำว่า เพชรพลอย จนเกิดเป็นความเชื่อที่ว่าเพชรและพลอยเป็นสิ่งเดียวกัน วันนี้ BKK Diamond จะมาไขข้อข้องใจว่าพลอยคืออะไร แตกต่างกันกับเพชรอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลยค่ะ
พลอย คืออะไร
พลอยเป็นชื่อเรียกของหินหรือแร่ที่มีค่าที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สามารถนำไปเจียระไน ตกแต่ง หรือแกะสลักทำเป็นเครื่องประดับได้ หรือที่ใครกลายคนรู้จักกันในชื่อ รัตนชาติ
เพชรและพลอย แตกต่างกันอย่างไร
ความแตกต่างของอัญมณีสองประเภทนี้วัดจากความแข็งแรง โดยนักธรณีวิทยา ฟรีดรีช โมห์ ได้จัดลำดับแร่ที่มีความแข็งตั้งแต่ระดับ 1-10 โดยวัดจากความแข็งน้อยที่สุดเป็นอันดับ 1 ไปจนถึงความแข็งมากสุดเป็นอันดับ 10 โดยเพชรเป็นแร่ที่มีความแข็งมากที่สุด ส่วนแร่ชนิดอื่นตั้งแต่อันดับ 9 ลงไป ถูกเรียกว่า พลอย ทั้งหมด ซึ่งเป็นแร่ที่แข็งแรงน้อยกว่า แต่หาง่ายและมีสีสันสวยงาม เช่น คอรันดัม ออร์โทเคลส
ประเภทของพลอย
หลักการแบ่งประเภทของพลอยโดยทั่วไปมี 2 แบบ ได้แก่ แบ่งตามค่าความแข็ง และแบ่งตามแหล่งกำเนิด
1. แบ่งตามค่าความแข็ง
- พลอยเนื้อแข็ง เป็นพลอยที่มีระดับความแข็งระดับ 9 ซึ่งทนต่อการขีดขวน มีเพียงตระกูลเดียว คือ คอรันดัม ได้แก่ ทับทิม และไพลิน
- พลอยเนื้ออ่อน เป็นพลอยที่มีระดับความแข็งตั้งแต่ระดับ 8 ลงไป ได้แก่ มรกต ควอตซ์
2. แบ่งตามแหล่งกำเนิด
- พลอยธรรมชาติ หรือพลอยแท้ เกิดจากการรวมกลุ่มกันของแร่และหินที่เกิดขึ้นเองตามกระบวนธรรมชาติ โดยใช้เวลานับล้านปีจนเกิดผลึกใต้พื้นดิน สังเกตได้จากรอยบิ่นข้างในที่เกิดเอง
- พลอยแท้ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่นำไปผ่านกระบวนปรับปรุงคุณภาพให้สีเสมอกันและสดยิ่งขึ้น
- พลอยสังเคราะห์ เกิดจากการสังเคราะห์ด้วยฝีมือมนุษย์ ดังนั้นจึงมีลักษณะภายนอกเหมือนพลอยแท้ทุกประการ
- พลอยปลอม ผลิตขึ้นจากแก้วหรือพลาสติกเพื่อเลียนแบบพลอยแท้ เมื่อตรวจสอบจะพบว่าไม่มีคุณสมบัติทางเคมีใดๆ ที่เหมือนกับพลอยธรรมชาติเลย
คุณสมบัติของพลอย
1. พลอยมีความโปร่งแสงแตกต่างกัน
- มีตั้งแต่โปร่งใส่จนเห็นวัตถุข้างหลังพลอยชัดเจน ตามมาด้วยกึ่งโปรงใส โปร่งแสง กึ่งโปร่งแสง และทึบแสงจนไม่เห็นแสงส่องผ่านพลอยได้เลย
2. แสงกระจายเป็นสีรุ้ง
- ในที่นี้จะเห็นเฉพาะพลอยใสไม่มีสี และพลอยสีอ่อน
3. คุณภาพแสงวาวที่พลอยสะท้อนเข้าตามีหลายระดับ
- มีระดับความวาวมากสุดตั้งแต่วาวแบบโลหะเหมือนผิวของโลหะ วาวแบบเพชร วาวแบบแก้ว วาวแบบน้ำมันเคลือบ วาวแบบยางสน วาวแบบขี้ผึ้ง วาวแบบใยไหม และวาวแบบด้านซึ่งไม่เกิดแสงสะท้อนเลย
4. ระดับความแข็งของพลอย
จากการวัดระดับความแข็งแรงโดยฟรีดรีช แบ่งพลอยเป็น 9 ระดับจากความแข็งแรงน้อยสุดไปมากสุด ได้แก่
- ทัลก์ (Talc)
- ยิปซัม (Gypsum)
- แคลไซต์ (Calcite)
- ฟลูออไรต์ (Fluorite)
- อะพาไทต์ (Apatite)
- ออร์โทเคลส (Orthoclase)
- ควอตซ์ (Quartz)
- โทแพซ (Topaz)
- คอรันดัม (Corundum)
พลอยปลอม ดูอย่างไร
- พลอยปลอมมีสีโทนเดียว ส่วนพลอยแท้จะมีสีด้านหน้าเข้มกว่าด้านข้าง 50%
- พลอยปลอมมีสีสดและสะอาดกว่าปกติ ส่วนพลอยแท้จะมีรอยบิ่นเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
- โดยทั่วไปพลอยแท้จะมีน้ำหนักแพงสุดอยู่ที่ 1 กะรัต หรือประมาณ 200 มิลลิกรัม หากมีพลอยที่น้ำหนักมากกว่านี้อาจเป็นพลอยปลอม
.
สำหรับใครที่อ่านจบแล้วยกให้พลอยคือเครื่องประดับยืนหนึ่งในใจ อยากได้ครอบครองสักชิ้นขึ้นมาทันที ทางเรา BKK Diamond ยินดีให้คำปรึกษาฟรีตลอด 24 ช.ม. นอกจากนี้ยังมีเครื่องประดับอื่นๆ ของแบรนด์มือสองสภาพดี ราคาไม่แพง วางจำหน่ายให้แก่ท่านที่สนใจ รวมทั้งมีหน้าร้านทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงถึง 9 สาขา เพื่อให้ท่านได้รับความพึงพอใจมากที่สุดจากบริการของเราอีกด้วยค่ะ
.
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ประเภทของเพชรแต่ละชนิด มีอะไรบ้าง?
ชนิดของทอง ทองคำ ทองเค ทองคำขาว ต่างกันอย่างไร
ตำหนิเพชร (Diamond Inclusions) ตำหนิภายนอก-ภายในของเพชร คืออะไร?