เพชร เป็นหนึ่งในแร่ธรรมชาติที่มีค่าที่สุดของโลกที่เป็นที่ใฝ่ฝันของทุกคน และเป็นที่นิยมนำมาสะสมและใช้ประกอบเครื่องประดับมากมาย ซึ่งทราบหรือไม่ว่าเพชรก็มีการแบ่งประเภทของเพชรออกเป็น 3 ประเภท แต่จะมี อะไรบ้างนั้น มาดูพร้อมกันเลยค่ะ
ประเภทของเพชร
1. เพชรธรรมชาติ
หมายถึง เพชรที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติที่ทับถมกันมายาวนาน สามารถขุดได้ที่เหมือง ซึ่งที่แรกจะเรียกว่า ‘เพชรดิบ’ หรือเพชรที่ยังไม่เจียระไน เป.นเพชรชนิดที่มีความแข็งแรงมาก ในครั้งแรกที่ขุดเจอเพชรจะยังไม่มีความแวววาว จะมีสีขุ่นๆ เพราะยังไม่ผ่านการเจียระไน ราคาของเพชรธรรมชาติจะค่อนข้างสุงกว่าเพชรชนิดอื่นๆ ยิ่งมีความสะอาดบริสุทธิ์มากเท่าไรก็ยิ่งยิ่งราคาแพง นิยมซื้อเพื่อเก็บสะสมและซื้อเพื่อการลงทุนเก็งกำไร
2. เพชรสังเคราะห์
เพชรสังเคราะห์ คือเพชรที่สร้างขึ้นจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งจะถูกสังเคราะห็ในห้องแล็บ มีอีกชื่อนึงคือ “Synthetic Diamonds’” มีคุณสมบัติทางเดคมีเหมือนกับเพชรธรรมชาติทุกอย่าง ไม่สามารถตรวจสอบหาข้อแตกต่างได้ด้วยตาเปล่าความแข็งแรงจะน้อยกว่าเพชรธรรมชติ แต่ว่าความสวยงามจะสวยไม่แพ้เพชรธรรมชาติเลย ราคาของเพชรสังเคราะห์จะราคาถูกกว่าเพชรธรรมชาติ แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- เพชรสังเคราะห์ HPHT (High Pressure High Temperature) คือ กระบวนการสังเคราะห์เพชรที่จำลองแรงกดดันและอุณหภูมิในห้องแล็บให้มีความร้อนสุงเหมือนกับใต้พิภพ จากนั้นจะนำคาร์บอนไปละลายกับโลหะหลอมเหลวสู่เศษเพชรสังเคราะห์หรือเศษเพชรธรรมชาติ เพื่อกลายเป็นผลึกเพชรสังเคราะห์
- เพชรสังเคราะห์ CVD (Chemical Vapor Deposition)คือ กระบวนการสังเคราะห์เพชรที่จะผลิตในห้องสุญญากาศที่ภายในบรรจุก๊าซมีเทน จากนั้นก๊าซมีเทนจะแตกตัวกลายเป็นอะตอมคาร์บอน ไฮโดรเจน และเศษเพชรธรรมชาติและจะออกมาเป็นผลึกเพชรสังเคราะห์
เพชรเบลเยี่ยมดีอย่างไร? ทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่คนรักเพชร
เพชรรัสเซียคืออะไร ต่างจากเพชรธรรมชาติอย่างไร
3. เพชรเทียม
หมายถึงเพชรที่ไม่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ แต่มีความสวยงามแวววาวไม่ต่างกับเพชร มีคุณสมบัติความแข็งแรงและการกระจายแสงได้น้อยกว่าเพชรธรรมชาติ โดยเพชรเทียมที่ได้รับความนิยมมากก็คือ “เพชรรัสเซีย” เป็นประเภทเพชรชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาทำเครื่องประดับ เพราะคงทนต่อรอยชีดชุดได้เยอะกว่าและมีราคาถูก