หลายคนที่สนใจและกำลังจะไปซื้อทองเคมาเพื่อลงทุนในระยะยาว อาจสงสัยว่าทองเคดูยังไง? ใช่ของแท้หรือไม่? วันนี้เรามีวิธีเช็กแบบง่ายมาฝากทุกคนครับ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าทองเคก็คือทองแท้ที่มีค่าความบริสุทธิ์แตกต่างกันไป โดยตัวอักษร K ที่ใช้เรียกกันนั้นมาจากคำว่า “กะรัต” (Karat) ซึ่งเป็นหน่วยวัดตามมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก คำว่าทองเคมีที่มาจากหลักการผลิตเครื่องประดับทองที่ว่า ทองที่มีความบริสุทธิ์สูง (99%) สามารถนำมาทำเป็นเครื่องประดับได้ก็จริง แต่อาจเสี่ยงต่อการหลุดหายง่าย เนื่องจากทองเปอร์เซ็นต์สูงจะมีความอ่อนตัวสูงตามไป เพื่อนำทองมาทำเป็นเครื่องประดับ จึงต้องผสมวัตถุดิบอื่นร่วมด้วย เพื่อให้ทองแข็งตัวมากยิ่งขึ้น ได้แก่ เงิน, ทองแดง, นิกเกิล ฯลฯ โดยอัตราส่วนที่ผสมนั้นจะต้องสัมพันธ์ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งผู้ผลิตทองรูปพรรณแต่ละเจ้าจะมีสูตรการผสมเป็นของตนเอง บางรายอาจผสมทองแดง เพื่อเน้นให้ทองมีสีอมแดง หรือบางรายอาจผสมเงิน เพื่อให้ทองมีสีเหลืองขาว ปัจจุบันมีทองเคทั้งหมด 10 ประเภท ดังนี้
- ทอง 24K เป็นทองคำ 99.99 – 100% มีเฉดสีทอง
- ทอง 23.16K เป็นทองคำ 96.50% มีเฉดสีเหลือง
- ทอง 22K เป็นทองคำ 91.70% มีเฉดสีเหลืองทอง
- ทอง 21K เป็นทองคำ 87.50% มีเฉดสีเหลืองทอง
- ทอง 18K เป็นทองคำ 75% มีเฉดสีเหลือง
- ทอง 14K เป็นทองคำ 58.33% มีเฉดสีเหลือง
- ทอง 12K เป็นทองคำ 50% มีเฉดสีเหลือง
- ทอง 10K เป็นทองคำ 41.67% มีเฉดสีเหลือง
- ทอง 9K เป็นทองคำ 37.50% มีเฉดสีเหลืองปนเขียว
- ทอง 8K เป็นทองคำ 33.3% มีเฉดสีเหลืองซีด
ทองเคดูยังไง สังเกตได้ด้วยหลักต่อไปนี้
1. โลโก้ร้าน / ตราประทับ
ตามหลักของสมาคมค้าทองคำจะควบคุมมาตรฐานทองด้วยการตีตราโลโก้ร้านที่ผลิต รวมถึงบอกแหล่งผลิตและปริมาณความบริสุทธิ์ของทองเอาไว้บริเวณห่วง หากทองเคที่คุณต้องการพิสูจน์ไม่มีตราประทับก็อาจหมายถึงว่าเป็นทองปลอมที่มีส่วนผสมอื่นมากกว่าทองหรืออาจไม่มีทองเป็นส่วนผสมอยู่เลย จึงไม่สามารถตีตราประทับได้
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ทองไม่มีตราประทับ ขายได้ไหม มีวิธีพิสูจน์ทองอย่างไรบ้าง
2. ขนาดและน้ำหนัก
วิธีนี้อาจต้องใช้ทองแท้ที่มีน้ำหนักเท่ากันมาวัดด้วยเครื่องชั่งน้ำหนัก เนื่องจากทองเคแท้จะมีน้ำหนักเท่ากันเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทองขนาดใหญ่หรือเล็กก็ตาม
3. ใช้ฟันกัด
ยิ่งทองมีความบริสุทธิ์มาก ก็ยิ่งมีความอ่อนตัวสูง ดังนั้นเพียงแค่คุณลองกัดแบบไม่แรงมากก็จะเห็นว่าทองแท้อ่อนตัวไปตามแรงกัด ทั้งนี้ไม่แนะนำให้กัดแรงเกินไป เพราะอาจทำให้ทองมีตำหนิได้
4. แม่เหล็ก
ถ้าใช้แม่เหล็กแล้วทองดูดเข้าหาแม่เหล็กทันที แสดงว่าเป็นทองปลอมแน่นอน เนื่องจากใส่ส่วนผสมอื่นเข้าไปในปริมาณมาก แต่หากเป็นทองเคแท้จะไม่ถูกแม่เหล็กดูด
5. น้ำยาทดสอบทอง / กรดไนตริก
นำกรดไนตริกหยดลงทองแท้ หากเป็นทองแท้จะไม่เกิดรอยแหว่งแต่อย่างใด แต่หากเป็นทองปลอมจะเกิดรอยแหว่งชัดเจน
6. รอยต่อของทอง
เนื่องจากทองแท้ทนทานต่อการเสียดสีเป็นเวลานาน จึงยังคงเป็นสีเหลืองทองตั้งแต่วันแรกที่ใส่ หากพบสีแปลก ๆ บริเวณขอบหรือรอยต่อของทอง แสดงว่าเป็นทองปลอมแน่นอน
7. โยนลงกระจก
เนื่องจากทองคำเป็นโลหะเนื้อนุ่ม หากโยนบนกระจกจะได้ยินเสียงกระทบกันเป็นเสียงนุ่ม ๆ ไม่แหลมดัง แต่ถ้าเป็นทองปลอมจะได้ยินเสียงดังชัดเจน
8. จานเซรามิก
นำทองมาฝนบริเวณก้นจานเซรามิกอย่างเบามือภายใน 15 – 30 วินาที หากเป็นทองแท้จะไม่เกิดรอยขีดข่วนบริเวณก้นจาน แต่ถ้าเป็นทองปลอมจะเกิดรอยดำ ๆ บริเวณก้นจาน เนื่องจากทองปลอมมีส่วนผสมของทองแดงหรือตะกั่ว จึงทำให้เนื้อหลุดออกมาเป็นสีดำ
9. พิสูจน์จากการเผาไฟ
รู้หรือไม่ว่ารอยหมองของทองเกิดจากสารปรอทในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ซึ่งถูกชะล้างและติดอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของทอง จนเกิดเป็นรอยหมอง การเผาไฟจึงช่วยละลายสารที่เคลือบอยู่บนทองให้หลุดออก แต่หากเป็นทองปลอมจะกลายเป็นสีดำทันทีที่เผาไฟ ทั้งนี้ไม่ควรเผาไฟนานเกินไปเพราะอาจทำให้ทองผิดรูป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ทองแท้ก็แพ้ไฟได้ ทำไมถึงห้ามพิสูจน์ทองด้วยการเผาทอง
10. พิสูจน์จากเครื่องตรวจทอง Goldscope sd 520
โดยทั่วไปร้านรับซื้อมักจะตรวจเช็กทองด้วยวิธีการเผาไฟเพื่อดูความบริสุทธิ์ของทองซึ่งอาจทำให้ทองเสียหายได้ แต่การใช้เครื่องตรวจทอง Goldscope sd 520 ซึ่งเป็นเครื่อง X-Ray ทองคำจากประเทศเยอรมนี จะช่วยตรวจสอบคุณภาพทองได้ทันทีว่าเป็นทองแท้หรือทองปลอม ข้อดีของเครื่องนี้จะช่วยไม่ให้ทองเสียหายแม้แต่น้อย แถมยังช่วยให้ลูกค้าขายได้ราคาเต็มมูลค่าเนื่องจากไม่ต้องหักเปอร์เซ็นต์กันการตีราคาผิดพลาดอีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ซื้อ-ขายทองอย่างมั่นใจด้วยเครื่องตรวจทอง GOLDSCOPE จาก BKK Diamond
ข้อควรระวังเกี่ยวกับทอง 9k
หากมีคนมาขายต่อทอง 9K จากอังกฤษให้แก่คุณ แนะนำให้ตั้งสติก่อนนะครับ เพราะทองชนิดนี้เลิกผลิตในอังกฤษไปนานแล้ว ดังนั้นทอง 9k อังกฤษที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบันจึงเป็นทองมือ 2 เท่านั้น หากคนขายบอกว่าขายทองเคงานเมืองนอก ควรตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นทองมือสองแท้ ๆ หรือเป็นงานไทยกันแน่ ทั้งนี้หากทองเหล่านี้ไม่ได้มาจากร้านทองที่เชื่อถือได้ก็ไม่แนะนำให้ซื้อเด็ดขาด
แม้ว่าทองเคจะเป็นเครื่องประดับที่สวยงามและทนทานต่อการใช้งานมากกว่าเครื่องประดับหลายๆ ชนิดแล้ว ยังเป็นแหล่งเงินฉุกเฉินได้ในยามจำเป็นอีกด้วย เพียงแต่ถ้าคุณดูแลรักษาไม่ดีหรือเลือกร้านรับซื้อทองที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีรีวิวจากผู้ใช้บริการ หรือมีช่องทางติดต่อออนไลน์เพียงช่องทางเดียว ก็อาจเสี่ยงต่อการถูกต้มจากเหล่าพี่มิจทั้งหลายได้ง่ายด้วย ดังนั้นคุณควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจขายทองนะครับ
บทความที่น่าสนใจ
- ซื้อขายทองเคทั้งที ต้องรู้ข้อมูลอะไรบ้าง
- ขายทองเคมือสองอย่างไร ให้ได้ราคาดี ไม่ขาดทุน
- แนะนำแหล่งเช็กราคารับซื้อทองเคหาได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง
ซื้อขายทองที่ไหน ทำไมต้อง BKK Diamond
BKK DIAMOND เป็นศูนย์รับซื้อและจำหน่ายเครื่องประดับเพชร ทอง และอัญมณีของมีค่าที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย โดยมีประสบการณ์ดำเนินงานมากกว่า 30 ปี และมีสาขาเปิดให้บริการกว่า 20 แห่งทั่วประเทศ เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ช.ม. มีหน้าร้านหลายสาขาให้เลือกใช้บริการ มีเครื่องตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับจากยุโรป ทางเรารับซื้อในราคาสูงสุดตามราคามาตรฐานสากลและอ้างอิงราคาตลาดโลก และที่สำคัญเรามีช่องทางการส่งต่อเครื่องประดับของคุณถึงกลุ่มลูกค้า END USER โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะขายได้ราคาเต็มมูลค่าอย่างแน่นอน
หากใครไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเอง ทางเรามีบริการ EXCLUSIVE PRIVATE หรือบริการรับซื้อถึงที่โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจ ปลอดภัย เพราะพนักงานทุกคนผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และได้รับวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้คุณสามารถซื้อ-ขายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด เพียงแค่เลือกวันเวลาที่คุณสะดวกและนัดหมายล่วงหน้าเราได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้บริการกับเรา