ไซส์เพชร เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อมูลค่าของเพชร แม้ว่าคุณจะเลือกเพชรที่ผ่านการเจียระไนมาเป็นอย่างดี หรือเป็นเพชรไร้สี แต่หากคุณต้องการลงทุนในเพชรหรือต้องการเครื่องประดับเพชรที่มีประกายโดดเด่น การเลือกเพชรจากไซส์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณจะต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ว่าแต่ไซส์ของเพชรมีกี่แบบ แบบไหนเป็นที่นิยมมากที่สุด วันนี้ BKK Diamond จะมาเล่าให้ฟังครับ
ไซส์เพชรคืออะไร
เป็นขนาดโดยรวมของเพชรที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มักจะใช้พูดถึงความใหญ่-เล็กของเพชร โดยไม่จำเป็นต้องวัดจากมิติ (เช่น เส้นผ่านศูนย์กลางหรือความลึก) หรือการเจียระไนอย่างละเอียด ไซส์เพชรจะอิงตามน้ำหนักของเพชรในหน่วย กะรัต (Carat) เช่น เพชรไซส์ 1 กะรัต หรือ 0.5 กะรัต ซึ่งเป็นไซส์ยอดนิยมในตลาดทั่วไป การดูเพชรจากไซส์เป็นเรื่องแรกๆ ที่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายหรือเลือกใช้ในเครื่องประดับของผู้บริโภค
ไซส์เพชรมีกี่แบบ อะไรบ้าง
สำหรับประเทศไทยจะมีหน่วยวัดไซส์เป็นตัง ดังนี้
- เพชรครึ่งตัง (0.5 ตัง) = 0.05 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 มม.
- เพชร 1 ตัง = 0.1 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.3 มม.
- เพชร 1.5 ตัง = 0.15 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 มม.
- เพชร 2 ตัง = 0.2 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.7 มม.
- เพชร 3 ตัง = 0.3 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 มม.
- เพชร 5 ตัง = 0.5 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.4 มม.
- เพชร 7 ตัง = 0.7 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.7 มม.
- เพชร 10 ตัง = 0.10 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม.
- เพชร 1 กะรัต = 1.00 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6.5 มม.
- เพชร 2 กะรัต = 2.00 กะรัต มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8.2 มม.
ไซส์เพชร มีผลต่อราคาเพชรหรือไม่
ไซส์เพชรมีผลต่อราคาเพชรอย่างมาก เนื่องจากไซส์ของเพชรจะคิดจากน้ำหนักกะรัตและขนาดที่เห็นด้วยตาเปล่า (วัดเป็นหน่วยมิลลิเมตร) ยิ่งเพชรมีไซส์ที่ใหญ่มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีน้ำหนักกะรัตและมิลลิเมตรที่เยอะขึ้น โดยธรรมชาติของคนส่วนใหญ่มองว่ายิ่งเพชรมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งน่าสนใจ ยิ่งเป็นจุดเด่นเวลาสวมใส่ออกงานสำคัญ หรือในมุมของนักลงทุนก็มองว่าเพชรไซส์ใหญ่จะเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่า จึงทำให้ไซส์เพชรขนาดใหญ่มีราคาสูง
เลือกไซส์เพชรอย่างไรให้เหมาะกับคุณ
1. กรณีที่คุณต้องการซื้อขายเก็งกำไร
เราขอแนะนำให้เลือกไซส์ที่ไม่มีจุดทศนิยมตามหลังอย่างเพชร 1 – 2 กะรัต จะดีที่สุดครับ คุณเชื่อไหมครับว่าจุดทศนิยมมีผลต่อการตัดสินใจซื้อขายของผู้บริโภคมากกว่าที่คิด เพราะคนส่วนใหญ่มองว่าไซส์ที่ไม่มีจุดทศนิยมตามหลังจะดูสบายตามากกว่าและดูมีมูลค่ามากกว่าไซส์ที่มีจุดทศนิยม การมีจุดทศนิยมจะสร้างความดูขาดๆ เกินๆ ให้แก่ผู้ซื้อ และความรู้สึกขัดใจนี้เองที่มีผลทำให้ผู้ซื้อส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อไซส์เพชรที่ไม่มีจุดทศนิยมแทน และร้านเพชรส่วนใหญ่ก็ทราบในจุดนี้ จึงกำหนดราคาสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วเพชรที่มีจุดทศนิยมส่วนใหญ่มักจะมีรูปร่างหรือขนาดที่ไม่แตกต่างกันมากแบบที่มองเห็นด้วยตาเปล่า โดยเฉพาะไซส์เพชร 0.98 และ 1 กะรัต ที่มีราคาแตกต่างกันพอสมควร โดยเพชร 0.98 อาจมีราคาประมาณ 90,000 บาท (ณ เดือนพฤษภาคม 2568) แต่เพชร 1.00 กะรัต อาจราคาพุ่งเป็น 120,000 – 150,000 บาท (ณ เดือนพฤษภาคม 2568)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: ลงทุนเพชร ดีไหม มือใหม่เริ่มต้นลงทุนอย่างไรดี
2. กรณีที่คุณต้องการซื้อไว้สวมใส่เอง
เราขอแนะนำให้เลือกไซส์ตามงบประมาณเป็นที่ตั้งก่อนเป็นอันดับแรกครับ เพราะการกำหนดงบที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีตัวเลือกจำกัดที่นอกจากจะช่วยประหยัดงบการเงินของคุณแล้ว ยังช่วยตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นออกไปได้มากขึ้น ทำให้คุณมีตัวเลือกน้อยลงและตัดสินใจซื้อเพชรตามไซส์ได้ง่ายขึ้น เพราะอย่างที่บอกไปว่าไซส์ของเพชรมีผลต่อราคาเป็นอย่างมากแม้จะต่างกันแค่จุดทศนิยมก็ตาม หรือในกรณีที่คุณไม่จำกัดเรื่องงบ เราก็ขอแนะนำให้เลือกตามดีไซน์ที่ชอบหรือเลือกตามน้ำหนักที่เหมาะกับฟังก์ชันการใช้งานจะดีที่สุดครับ เช่น ต้องการแหวนเพชรสำหรับสวมใส่ออกงานสำคัญ ก็อาจเน้นเพชรเม็ดโต แต่หากต้องการเพชรสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ก็อาจเลือกเพชรเม็ดเล็กแทน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: กะรัตเพชรคืออะไร เลือกอย่างไรให้ได้เพชรน้ำงาม
สุดท้ายนี้หากคุณต้องการลงทุนในเพชรจริงๆ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นหลัก 4Cs, ราคากลาง, ประเภทของการลงทุน รวมถึงแหล่งรับซื้อเพชร เพื่อประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้กำไรจากการลงทุนได้ตามความต้องการของคุณมากที่สุดโดยที่ไม่ต้องมารู้สึกผิดหรือเสียดายในภายหลังครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JEWELRY SHOP – ศูนย์รับซื้อเพชร ทอง ของมีค่า บริการมาตรฐาน
บทความที่น่าสนใจ
- เพชรดิบคืออะไร ราคาเท่าไหร่ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นเพชรแท้
- ไขทุกความลับของเพชรปลอม ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
- รวมแบรนด์เพชรในไทยที่น่าสนใจ ควรมีไว้เพื่อการลงทุน
ซื้อขายเพชรที่ไหนดี ทำไมต้อง BKK DIAMOND
BKK Diamond เป็นศูนย์รับซื้อและขายเพชร รวมถึงเครื่องประดับที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีบริการรับจำนำหรือขายฝากเพชรสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินสดแต่ไม่อยากขายขาดทรัพย์สินของตน อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1.25% ต่อเดือนเท่านั้น เราสามารถให้วงเงินสูงตามมูลค่าเพชรและอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว สำหรับเพชรที่จำนำจะถูกเก็บรักษาในห้องนิรภัยกันไฟ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากลโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ไม่มีค่าบริการตู้เซฟหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ แอบแฝง ที่สำคัญเรามีบริการรับซื้อถึงบ้านโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับเงินสดได้ทันที เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาถึงหน้าร้านด้วยตัวเอง หากคุณสนใจใช้บริการหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อ BKK Diamond ได้ที่
- เว็บไซต์: bkkdiamond.com
- Facebook: BKK Diamond
- Instagram: @bkkdiamondshop
- Line: @bkkdiamond (มี @ ข้างหน้า)
- โทรศัพท์: 064-243-2345