กะรัตเพชรเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันที่ช่วยให้เราเลือกเพชรน้ำดีมาสวมใส่หรือเก็งกำไรก็ตาม หลายคนอาจเข้าใจผิดว่ากะรัตเป็นขนาดหรือความหนาแน่นของเพชร แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นครับ ว่ากะรัตของเพชรคืออะไร เลือกอย่างไรให้ได้เพชรน้ำงาม วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟังครับ
กะรัตเพชรคืออะไร
กะรัตเป็นชื่อเรียกแทนน้ำหนักของเพชรและอัญมณีชนิดอื่น ถูกกำหนดไว้ในหลัก 4Cs จาก GIA (Gemological Institute of America) หรือสถาบันอัญมณีศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกาเพื่อใข้ในการพิจารณาคุณภาพของเพชรแต่ละเม็ด โดยเพชร 1 กะรัตมีน้ำหนักเท่ากับ 0.2 กรัม หรือ 100 ตังค์ โดยกะรัตของเพชรจะขึ้นอยู่กับการเจียระไน (Cut) ที่มีผลต่อความหนาแน่นของอัญมณีชิ้นนั้น หากเจียระไนไม่ได้สัดส่วนตามมาตรฐานก็อาจทำให้เพชรเม็ดนั้นมีเหลี่ยมหนาหรือมีก้นลึกเกินไปและทำให้น้ำหนักไปกองอยู่ใต้ขอบเพชร ส่งผลให้ราคาซื้อขายเพิ่มขึ้นโดยที่คุณภาพการเจียระไนของเพชรไม่ดีตามราคาที่สูงขึ้น โดยทั่วไปแล้วยิ่งเพชรมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งมีราคาต่อกะรัตสูงขึ้นเท่านั้น
กะรัตเพชร มีกี่แบบ อะไรบ้าง
สำหรับกะรัดเพชรที่นิยมในปัจจุบันมีตั้งแต่ 0.2 กะรัต ไปจนถึง 3 กะรัต โดยแต่ละกะรัตจะมีขนาดและราคาแตกต่างกันไปดังนี้
- เพชร 0.2 กะรัต ขนาด 3.8 มม. ราคาประมาณ 16,000-22,000 บาท
- เพชร 0.3 กะรัต ขนาด 4.4 มม. ราคาประมาณ 26,000-32,000 บาท
- เพชร 0.4 กะรัต ขนาด 4.8 มม. ราคาประมาณ 41,000-50,000 บาท
- เพชร 0.5 กะรัต ขนาด 5.2 มม. ราคาประมาณ 73,000-93,000 บาท
- เพชร 0.7 กะรัต ขนาด 5.7 มม. ราคาประมาณ 90,000-120,000 บาท
- เพชร 0.8 กะรัต ขนาด 6 มม. ราคาประมาณ 135,000-175,000 บาท
- เพชร 0.9 กะรัต ขนาด 6.3 มม. ราคาประมาณ 160,000-350,000 บาท
- เพชร 1 กะรัต ขนาด 6.5 มม. ราคาประมาณ 230,000-590,000 บาท
- เพชร 1.5 กะรัต ขนาด 6.5 มม. ราคาประมาณ 770,000-1,200,000 บาท
- เพชร 2 กะรัต ขนาด 8.2 มม. ราคาประมาณ 1,500,000-2,400,000 บาท
- เพชร 3 กะรัต ขนาด 9.3 มม. ราคาประมาณ 3,200,000-5,600,000 บาท
กะรัตเพชร คำนวณอย่างไร
1. วัดด้วยเครื่องชั่งน้ำหนักเพชร
สำหรับวิธีคำนวณกะรัตเพชรจะต้องคิดจากน้ำหนักของเพชรเม็ดนั้นเป็นหน่วยกรัม จากนั้นหารด้วย 0.2 ก็จะได้ค่าออกมาเป็นหน่วยกะรัต แต่หากตาชั่งของคุณเป็นหน่วยมิลลิกรัม ให้หารด้วย 200 ก็จะได้เป็นหน่วยกะรัตเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ชั่งน้ำหนักเพชรได้ 0.2 กรัม แล้วนำมาหารกับ 0.2 จะได้เพชร 1 กะรัต หรือชั่งน้ำหนักเพชรได้ 200 มิลลิกรัม แล้วนำมาหารกับ 200 จะได้เพชร 1 กะรัตเช่นกันครับ
2. วัดจากขนาดและเส้นผ่าศูนย์กลางของเพชร
นอกจากนี้ยังมีการคำนวณอีกแบบนั่นก็คือการคำนวณจากการวัดสำหรับใช้สูตรคำนวณเฉพาะ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องชั่งน้ำหนักเพชร โดยเราจะวัดเพียง 2 อย่าง ได้แก่ ขนาดและเส้นผ่าศูนย์กลางของเพชร หากเป็นเพชรทรงกลมให้วัดจากเส้นผ่าศูนย์กลางและความลึกของเพชร สำหรับการวัดนั้นจะเริ่มจากเส้นรอบวงด้านหนึ่งไปบรรจบกับเส้นรอบวงอีกด้านหนึ่ง ส่วนความลึกของเพชรจะวัดจากความสูงของพื้นผิวที่อยู่ด้านบนสุดไปยังด้านล่างสุดของเพชร โดยการวัดทั้ง 2 แบบจะใช้หน่วยวัดเป็นมิลลิเมตรเสมอ จากนั้นนำทั้งสองค่ามาคำนวณตามสูตรดังต่อไปนี้
- กะรัตเพชร (เพชรทรงกลม) = เส้นผ่าศูนย์กลาง (มิลลิเมตร) x เส้นผ่าศูนย์กลาง (มิลลิเมตร) x ความลึก (มิลลิเมตร) x 0.006
- กะรัตเพชร (เพชรทรงเหลี่ยม) = ความยาว (มิลลิเมตร) x ความกว้าง (มิลลิเมตร) x ความลึก (มิลลิเมตร) x ค่าสัมประสิทธิ์**
**ค่าสัมประสิทธิ์ เป็นค่าที่เพิ่มขึ้นมาในการคำนวณกะรัตของเพชรทรงเหลี่ยม หากอัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 1.25 ค่าสัมประสิทธิ์จะเท่ากับ 0.0080, หากอัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 1.50 ค่าสัมประสิทธิ์จะเท่ากับ 0.0090, หากอัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 2.0 ค่าสัมประสิทธิ์จะเท่ากับ 0.0100 และหากอัตราส่วนความยาวต่อความกว้าง 2.5 ค่าสัมประสิทธิ์จะเท่ากับ 0.0105**
Q&A คำถามที่พบบ่อย
กะรัตเพชร กับกะรัตน้ำหนักรวม ต่างกันอย่างไร
กะรัตเพชรเป็นเพียงน้ำหนักต่อเพชร 1 เม็ด ส่วนกะรัตน้ำหนักรวมเป็นน้ำหนักของเพชรทุกเม็ดในเครื่องประดับ 1 ชิ้นนำมารวมกัน
เลือกกะรัตเพชร แหวนแต่งงานอย่างไรดี
ขึ้นอยู่กับงบประมาณของคุณและคู่ครับ หากกำหนดเอาไว้ว่างบเอาไว้อยู่ที่หลักหมื่น (10,000-70,000 บาท) ก็จะได้กะรัตเพชรตั้งแต่ 10-70 ตังครับ แต่หากพูดถึงความต่างกันในเรื่องของราคานั้นน้ำหนักของเพชร 90 ตัง กับเพชร 1 กะรัตถือว่าต่างกันพอสมควร โดยเพชร 90 ตัง ราคาตั้งแต่ 160,000-350,000 บาท ส่วนเพชร 1 กะรัต ราคาประมาณ 230,000 บาทขึ้นไปครับ แต่ทั้งนี้เพชรกะรัตน้อยก็เล่นไฟได้ดีไม่แพ้เพชรกะรัตใหญ่ แถมยังประหยัดกว่าอีกด้วยครับ แต่หากคุณไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับกะรัตเท่าไหร่ เราขอแนะนำให้เลือกเป็น 30 ตังขึ้นไปครับ เนื่องจากเป็นขนาดเพชรที่มีใบเซอร์เพชรมอบให้และนิยมใช้เป็นแหวนแต่งงาน แต่หากคุณมีงบประมาณจำกัดแนะนำให้เลือกแหวนที่มีเพชรล้อมหรือกระเปราะหลอกเพื่อเสริมให้เพชรดูใหญ่ขึ้น
แม้ว่ากะรัตเพชรจะมีผลต่อราคาของเพชร แต่อย่าลืมนะครับว่ายังมีปัจจัยอื่นควบคู่ไปด้วย หากคุณซื้อเพชรเพียงเพราะกะรัตเยอะอย่างเดียวก็อาจได้เพชรคุณภาพไม่คุ้มราคาได้เช่นกัน ทางที่ดีเราขอแนะนำให้คุณศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเลืแซื้อเพชรให้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ที่ต้องการซื้อเพชรเก็งกำไร ทั้งนี้ก็เพื่อให้คุณได้เพชรน้ำงามในราคาที่คุ้มค่ากับคุณมากที่สุดครับ
บทความที่น่าสนใจ
- เหลี่ยมเพชรคืออะไร สำคัญต่อราคาซื้อขายเพชรอย่างไร
- ความสะอาดของเพชรมีกี่แบบ แบบไหนสะอาดที่สุด ราคาดีที่สุด
- เพชรน้ำดีคืออะไร มีผลต่อราคาเพชรหรือไม่ เลือกอย่างไรให้ได้น้ำดี
ซื้อขายเพชรที่ไหนดี ทำไมต้อง BKK DIAMOND
สำหรับใครที่กำลังมองหาร้านรับซื้อเพชรที่ได้มาตรฐานและมีชื่อเสียงเป็นเวลานาน ทางเรา BKK DIAMOND มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการท่านตลอด 24 ช.ม. เรามีหน้าร้านหลายสาขาให้ท่านเลือกใช้บริการ มีเครื่องตรวจสอบทองซึ่งจะช่วยให้คุณขายได้ราคาเต็มมูลค่า เพราะเราให้ราคาซื้อ-ขายตามมาตรฐานการรับซื้อทองโดยอ้างอิงจากราคาทองรายวันสมาคม ทั้งนี้เรากล้าการันตีเลยว่าทางเราไม่มีการกดราคาทอง หรือเครื่องประดับทองของคุณแน่นอน นอกจากนี้เรายังมีช่องทางการส่งต่อเครื่องประดับทองของคุณถึงกลุ่มลูกค้า END USER โดยตรงไม่ผ่านคนกลาง ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าคุณจะได้ราคารับซื้อสูงสุดตามราคาตลาดแน่นอน
หากใครไม่สะดวกเดินทางมาหน้าร้านด้วยตัวเอง ทางเรามีบริการ EXCLUSIVE PRIVATE หรือบริการรับซื้อถึงที่โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ มั่นใจ ปลอดภัย เพราะพนักงานทุกคนผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และได้รับวัคซีนโควิด-19 เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้คุณสามารถซื้อ-ขายได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโควิด เพียงแค่เลือกวันเวลาที่คุณสะดวกและนัดหมายล่วงหน้าเราได้ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทุกท่านมีความสุขทุกครั้งที่ได้ใช้บริการกับเรา