สำหรับใครก็ตามที่กำลังศึกษาหรือตัดสินใจลงทุนในเพชรเหมือนกับการลงทุนทองคำ นอกจากจะต้องศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเพชรอย่างละเอียดแล้ว ตลาดเพชรก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณรู้ราคากลางของเพชรแล้ว ยังช่วยให้คุณมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่มากพอต่อการลงทุนในระยะยาวอีกด้วย ว่าแต่ตลาดที่เกี่ยวข้องกับเพชรคืออะไร มีกี่แบบ แล้วแนวโน้มในตอนนี้เป็นอย่างไร บทความนี้มีคำตอบครับ

ตลาดเพชร คืออะไร

เป็นระบบเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายเพชรแท้ ทั้งเพชรดิบและเพชรเจียระไน ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผลิต การเจียระไน การส่งออก-นำเข้า ไปจนถึงการจำหน่ายทั้งแบบค้าส่ง ค้าปลีก และเพื่อการลงทุน โดยมีศูนย์กลางการค้าระดับโลกหลายแห่ง เช่น แอนต์เวิร์ป (เบลเยียม), มุมไบ (อินเดีย), ดูไบ, ฮ่องกง และเทลอาวีฟ การกำหนดราคาของตลาดเพชรจะอ้างอิงจากราคากลางของเพชร หรือที่เรียกว่า Rapaport ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่ใช้กันทั่วโลก รวมถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดเพชร ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจโลก ความต้องการในภาคแฟชั่น งานแต่งงาน การลงทุน รวมถึงการแข่งขันจากเพชรสังเคราะห์ (Lab-grown diamond) ที่มีราคาถูกกว่าเพชรธรรมชาติและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่ผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

ตลาดเพชร มีกี่แบบ อะไรบ้าง

1. ตลาดเพชรระดับโลก (Global Diamond Market)

• Antwerp (เบลเยียม) เป็นศูนย์กลางการค้าเพชรที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีตลาดเพชรตั้งอยู่ในเขต “Antwerp Diamond District” ซึ่งมีบริษัทค้าเพชรมากกว่า 1,500 แห่ง มีระบบควบคุมคุณภาพและการประมูลที่โปร่งใส เป็นแหล่งอ้างอิงราคาสำคัญระดับโลก
• Mumbai (อินเดีย) เป็นตลาดที่มีบทบาทสำคัญในด้านการเจียระไนเพชร โดยเฉพาะเพชรที่มีขนาดเล็กกว่า 90% ของโลกส่วนใหญ่ถูกส่งมาเจียระไนที่นี่ จึงทำให้มุมไบเป็นทั้งศูนย์กลางการส่งออกและแหล่งจ้างผลิตเพชรให้กับแบรนด์ใหญ่
• Dubai (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างแหล่งผลิตเพชรดิบอย่างตลาดแอฟริกาและผู้บริโภคในเอเชีย โดยดูไบมี Dubai Diamond Exchange เป็นตลาดค้าส่งเพชรระดับนานาชาติที่เติบโตได้อย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา
• Tel Aviv (อิสราเอล) เป็นตลาดเก่าแก่และมีชื่อเสียงด้านเทคโนโลยีการตรวจสอบคุณภาพเพชรอันดับต้นๆ ของโลก มีระบบการประมูลและโครงสร้างการค้าเพชรที่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในกลุ่มเพชรเม็ดใหญ่และเพชรที่มีคุณภาพดีเยี่ยม
• Hong Kong (ฮ่องกง) ถือเป็นประตูสำคัญในการนำเข้าเพชรเข้าสู่ประเทศจีน ฮ่องกงเป็นตลาดผู้บริโภครายใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญในงานแสดงสินค้าเพชรและอัญมณีระดับโลก อีกทั้งเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าเพชรในเอเชียตะวันออกอีกด้วย

2. ตลาดเพชรออนไลน์

เป็นอีกหนึ่งช่องทางการซื้อขายเพชรผ่านเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เปิดโอกาสให้ทั้งนักลงทุน ร้านค้าปลีก และผู้บริโภคทั่วไปสามารถเข้าถึงการซื้อขายเพชรได้โดยตรง โดยเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มจะแสดงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับเพชรไว้ชัดเจน ทั้งรายละเอียดของเพชรตามมาตรฐาน 4Cs (Carat, Cut, Color, Clarity), ใบรับรองจากสถาบันอัญมณีศาสตร์ (GIA, AIGS, HRD Antwerp), และราคาอ้างอิงจากดัชนีตลาดโลก สำหรับแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ได้แก่ RapNet ซึ่งเป็นเครือข่ายซื้อขายเพชรสำหรับมืออาชีพในอุตสาหกรรม, James Allen และ Blue Nile ที่เน้นขายให้ผู้บริโภคทั่วไป พร้อมระบบแสดงภาพ 360 องศาให้ตรวจสอบคุณภาพเพชรอย่างละเอียดด้วยตัวเอง

3. ตลาดเพชรในประเทศไทย

สำหรับตลาดเพชรในประเทศไทยจะมีศูนย์กลางการซื้อขายหลักอยู่ในกรุงเทพฯ ย่านถนนสีลม หรือที่รู้จักกันหมู่ชาวต่างชาติว่าย่าน “Jewelry Trade Center” หรือ “เจมส์โร้ด” ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้าเพชรและอัญมณีจำนวนมาก ตั้งแต่ผู้ค้าส่ง ผู้ค้าปลีก ไปจนถึงบริษัทผู้ส่งออกเพชรที่มีเครือข่ายระหว่างประเทศ ส่วนอีกหนึ่งย่านสำคัญไม่แพ้กันนั่นคือ เยาวราช ที่นอกจากจะมีชื่อเสียงในด้านทองคำแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของร้านเพชรเก่าแก่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้ง 2 ย่านนี้มีตั้งแต่ร้านขนาดเล็กที่ขายปลีกเพชรเม็ดเดียว ไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ที่จำหน่ายทั้งเพชรเม็ด เพชรแท้ประดับตัวเรือน เครื่องประดับเพชรสำเร็จรูป รวมถึงบริการ “สั่งทำตามสเปก” ที่ลูกค้าสามารถเลือกแบบ คุณภาพเพชร และออกแบบเครื่องประดับเพชรได้ตามต้องการ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มองหาเครื่องประดับเฉพาะตัวหรือเพชรสำหรับลงทุน สำหรับราคาซื้อขายในตลาดเพชรไทยยังคงอิงตาม Rapaport Price List เพียงแต่จะมีความยืดหยุ่นในด้านราคาและการเจรจาที่เปิดกว้างมากกว่าตลาดออนไลน์ จึงทำให้ 2 ย่านนี้เป็นที่นิยมทั้งในหมู่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ตลาดเพชร ตอนนี้เป็นอย่างไร

หากพูดถึงสถานการณ์ของตลาดเพชรทั่วโลกนั้นถือว่าอยู่ภาวะชะลอตัวพอสมควร โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต้องหยุดการผลิตเพื่อดูแลตัวเองจากโควิด-19 อุตสาหกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเพชรจึงหยุดชะงักชั่วคราว เมื่อผู้คนขาดรายได้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ผู้บริโภคหันไปใช้จ่ายกับสินค้าที่จำเป็นมากกว่า ความต้องการเพชรโดยรวมจึงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าเราจะผ่านวิกฤตนี้มาได้แล้วก็ตาม แต่เศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งค่าเงินผันผวน ปัญหาอสังหาริมทรัพย์ในจีน สงครามการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ (สหรัฐอเมริกาและจีน)

และที่สำคัญยังมีปัจจัยซ้ำเติมเพิ่มเติมคือการเข้ามาของ เพชรสังเคราะห์ (Lab-grown Diamond) ที่มีคุณสมบัติที่แทบไม่ต่างจากเพชรธรรมชาติ แต่มีราคาถูกกว่าราว 30-70% จึงทำให้เพชรประเภทนี้ได้รับการยอมรับและเริ่มเข้ามาแทนที่เพชรธรรมชาติอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสนใจในเรื่องของความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า ทำให้ตลาดเพชรแท้เริ่มสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: เพชรสังเคราะห์คืออะไร แตกต่างจากเพชรธรรมชาติอย่างไร

แต่ถึงอย่างไรก็ตามตลาดเพชรก็ยังไม่ถึงขั้นตายไปจริงๆ เพราะเพชรก็ยังเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมหลักๆ อย่างอุตสาหกรรมยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์, เครื่องมือแพทย์, เจาะหิน/สำรวจแร่, แฟชั่น, งานแต่งงาน หรือแม้แต่กลุ่มนักลงทุนอยู่ดี แต่ต้องยอมรับว่าตลาดเพชรในช่วงยังอยู่ในช่วงปรับตัวพอสมควร

แล้วตลาดเพชรในไทยเป็นอย่างไรบ้าง

ต้องยอมรับก่อนนะครับว่ากลุ่มผู้บริโภคหลักอย่างกลุ่มวัยทำงานและคนรุ่นใหม่มีความต้องการเพชรในรูปแบบที่เปลี่ยนไป หากย้อนไป 10-20 ปีก่อน ผู้บริโภคในยุคนั้นมีกำลังซื้อที่สูงกว่า และมีทัศนคติในเรื่องของการซื้อเพชรแท้ที่มาจากธรรมชาติเท่านั้น แต่คนในปัจจุบันกลับไม่ได้มองในเรื่องของแหล่งผลิต แต่มองถึงคุณสมบัติการใช้งานในราคาที่เอื้อมถึงได้ จะเห็นได้ว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ร้านเพชรในไทยหลายแห่งเปิดตัวสินค้าเพชรสังเคราะห์อย่างจริงจัง เช่น แบรนด์ไทยบางแบรนด์มีไลน์ Lab-Grown เป็นของตัวเอง ส่วนร้านค้าออนไลน์หรือแพลตฟอร์ม E-commerce ก็เพิ่มปริมาณสินค้าในกลุ่มนี้มากขึ้น โดยเฉพาะในหมวดแหวนหมั้น แหวนแต่งงาน และเครื่องประดับแฟชั่น แต่ถึงอย่างไรก็ตามเพชรสังเคราะห์ในตอนนี้ก็ยังไม่ได้เข้ามาแทนที่เพชรแท้อย่างจริงจัง

สุดท้ายนี้หากคุณต้องการลงทุนในเพชรจริงๆ เราขอแนะนำให้คุณศึกษาข้อมูลอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นหลัก 4Cs, ราคากลาง, ประเภทของการลงทุน รวมถึงแหล่งรับซื้อเพชร เพื่อประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้กำไรจากการลงทุนได้ตามความต้องการของคุณมากที่สุดโดยที่ไม่ต้องมารู้สึกผิดหรือเสียดายในภายหลังครับ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม: JEWELRY SHOP – ศูนย์รับซื้อเพชร ทอง ของมีค่า บริการมาตรฐาน

บทความที่น่าสนใจ

• Lab Grown Diamond คืออะไร คุ้มกว่าเพชรแท้จากธรรมชาติหรือไม่
• เพชร CZ คืออะไร เป็นเพชรแท้ไหม ซื้อเพชรอย่างไรไม่ให้ถูกหลอก
• เพชรแท้ราคาลดลง ยังเหมาะกับการลงทุนอยู่มั้ย หรือเพชรสังเคราะห์ดีกว่า

ซื้อขายเพชรที่ไหนดี ทำไมต้อง BKK DIAMOND

BKK Diamond เป็นศูนย์รับซื้อและขายเพชร รวมถึงเครื่องประดับที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีบริการรับจำนำหรือขายฝากเพชรสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เงินสดแต่ไม่อยากขายขาดทรัพย์สินของตน อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1.25% ต่อเดือนเท่านั้น เราสามารถให้วงเงินสูงตามมูลค่าเพชรและอนุมัติได้อย่างรวดเร็ว สำหรับเพชรที่จำนำจะถูกเก็บรักษาในห้องนิรภัยกันไฟ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยมาตรฐานสากลโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ไม่มีค่าบริการตู้เซฟหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ แอบแฝง ที่สำคัญเรามีบริการรับซื้อถึงบ้านโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรับเงินสดได้ทันที เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่สะดวกมาถึงหน้าร้านด้วยตัวเอง หากคุณสนใจใช้บริการหรือมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อ BKK Diamond ได้ที่

• เว็บไซต์: bkkdiamond.com
• Facebook: BKK Diamond
• Instagram: @bkkdiamondshop
• Line: @bkkdiamond (มี @ ข้างหน้า)
• โทรศัพท์: 064-243-2345